5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคเช้า

112

อันดับที่ 1STEC รับแรงหนุนเงินปันผล-โบรกชูเป้า 29 บาท

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงาน ว่า บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” STEC ราคาเป้าหมาย 29 บาท  โดยประเมินกำไรไตรมาส 2/2562 จะยังเติบโต 380 ล้านบาท (+11% ไตรมาสก่อนหน้า, +24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน)  กำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่องคาดจะได้แรงหนุนจากเงินปันผลของ GULF และ TSE ประมาณ 58 ล้านบาท ทำให้รายได้อื่นคาดจะสูง 78 ล้านบาท (+42% ไตรมาสก่อนหน้า, +37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน)   และ  ความคืบหน้าต่อเนื่องของ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สีชมพู และ สีส้ม รวมถึงงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า GULF  ทำให้ยอดรับรู้รายได้คาดจะยังสูง 7,615 ล้านบาท (+2%QoQ, +34%YoY)  อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะทรงตัวที่ 7.3% ใกล้ไตรมาสก่อน แต่ลดลงจากปีก่อนซึ่งเท่ากับ 7.7%

อันดับที่ 2 FORTHควักกระเป๋า 300 ล้าน-พร้อมปรับโครงสร้างกิจการ

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงาน ว่า บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย( ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน มีวงเงินสูงสุดที่จะซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 300 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นจำนวน 5.21% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยจะซื้อหุ้นคืนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.62 -14 ก.พ.63 อีกทั้งคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการโดยการโอนกิจการบางส่วน (Partial Business Transfer: PBT) เพื่อให้บรรลุตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ โดยจะโอนธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจบริการผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร

อันดับที่ 3 JKNจะกลับมาแรงครึ่งปีหลัง-หุ้นมีอัพไซด์ 39%

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้ รายงานว่า บทวิเคราะห์หลักทรัพย์  บจ.หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น JKN ราคาเป้าหมาย 11.90 บาทคาดกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 ที่  120 ล้านบาท กลับมาเติบโตเด่น 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานที่ต่ำในปีก่อน กอปรกับ รายได้จากการขายลิขสิทธ์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ และมีรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตเจินเจิน-เดอะทอย และภาพยนตร์อินเดียเรื่อง “Khejdi”ที่จะเข้าฉายในวันที่ 18 ก.คนี้ และเริ่มรับรุ้รายได้จากการขายลิขสิทธ์รายการผลิตของทาง CNBC เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าดิจิทัล

อันดับที่ 4 กสทช. เผย “AWN” ชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz งวดที่สาม จำนวน 4,301.40 ล้านบาทแล้ว

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (18 ก.ค. 2562) บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN)  ผู้ชนะการประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz คลื่นความถี่ 895 – 905 MHz คู่กับ 940 – 950 MHz ได้นำเงินค่าประมูลงวดที่สาม จำนวน 4,301.40 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) พร้อมกับหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ในส่วนที่เหลือวงเงิน 63,744.18 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) มามอบให้แก่สำนักงาน กสทช. ตามเงื่อนไขของการชำระเงินประมูล โดยเงินค่าประมูลดังกล่าว สำนักงาน กสทช. จะรีบนำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป สำหรับการชำระเงินประมูลคลื่นความถี่งวดถัดไป AWN จะต้องชำระเงินประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าว เป็นจำนวนเงิน 23,269.29 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

อันดับที่  5 PACEปรับใหญ่ธุรกิจ“ดีน แอนด์ เดลูก้า “ ปักหมุดสิ้นปีนี้ลบภาพขาดทุนในUSA

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอร์เรชั่น หรือ PACE เปิดเผยว่า ปัจจุบันดีน แอนด์ เดลูก้า อิงค์ ซึ่งบริหารร้านสาขาในอเมริกา ได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในอเมริกาเพื่อให้สอดรับกับภาวะตลาด โดยขณะนี้กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจ ด้วยการแยกบริษัทเป็นธุรกิจในอเมริกาและเอเชีย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหาร อีกทั้งยังอยู่ในระหว่างการปรับขนาดธุรกิจในอเมริกาให้เหมาะสม มีการบริหารจัดการต้นทุน โดยการลดสาขาที่ไม่สามารถทำยอดขายและกำไรได้ตามเป้าลง และคงสาขาที่ยอดขายดีไว้ ทั้งนี้ในปัจจุบันดีน แอนด์ เดลูก้าในอเมริกาขาดทุนอยู่นั้น ซึ่งหากบริษัทสามารถลดต้นทุนลงได้ประมาณ 25% จะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตแบบเทิรน์อราวน์ได้ในอนาคต ซึ่งเบื้องต้นบริษัทตั้งเป้าจะหยุดขาดทุนได้ภายในสิ้นปี