อันดับที่ 1TPOLY ยิ้มรับทีพีซีไอ คว้างานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนมูลค่า 990.07 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่ากิจการร่วมค้า ทีพีซีไอ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัทที่มีสัดส่วนลงทุน 99% ได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (สยาม พาวเวอร์) ในต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ของบริษัท สยาม พาวเวอร์ จำกัด มูลค่าโครงการ 990.07 ล้านบาท (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีระยะเวลาก่อสร้าง 30 พ.ค.62 – 30 พ.ย.63 อย่างไรก็ดีหากย้อนไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2562 TPOLY ก็ได้ประกาศรับงานก่อสร้างใหม่ 6 โครงการ มูลค่ารวม 2.1 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการโรงพยาบาล ซีจีเอส ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขนาด 100 เตียง ของบริษัท โรงพยาบาล ซีจีเอส ลำลูกกา จำกัด มูลค่าโครงการ 439.5 ล้านบาท มีระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.62-25 ก.ค.63
อันดับที่ 2 JWD รับรู้รายได้ไต้หวัน กัมพูชา เวียดนาม-ปั้นกำไรปีนี้นิวไฮ 370 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ” หุ้น JWD โดยประเมินว่ายังคงเป็นหุ้นเด่น ให้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 12.00 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2562 เติบโตที่ระดับ 81 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ Transimex (ถือ 23.66%) โลจิสติกส์ใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนามเป็นไตรมาสแรก อย่างไรก็ดีประเมินว่าหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ผลงานอาจปรับตัวลดลง 10% เพราะ low season และมีค่าธรรมเนียมในกำรซื้อ กิจการ หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิครึ่งปีแรกจะเติบโต +88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังของปี 2562 จะดีขึ้นเพราะ high season และรับรู้รายได้จากการลงทุนในปีก่อน
อันดับที่ 3TRITN รับเงินเพิ่มทุนครบ 490 ล้าน-พร้อมจัดทัพลุยธุรกิจพลังงาน
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จากัด (มหาชน) (“บริษัท”) หรือ TRITN โดยนายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการได้มาของการชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนครบถ้วนทั้งจำนวนเป็นเงิน 490 ล้านบาท จาก Zico Trust (s) Ltd. As Trustee of Asia Alpha Equity Fund 3 (“ZT-AAEF3”) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้เพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงของบริษัท ตามที่ได้รับมติอนุมัติให้เพิ่มทุนในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 อย่างไรก็ตามบริษัทได้ออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 1,400 ล้านหุ้น ให้กับ ZT-AAEF3 ที่ราคาเสนอขายในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท พร้อมเข้าสู่เงื่อนไขกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น หรือ Silent Period ด้วยความสมัครใจ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนของบริษัท และเป็นการแสดงความตั้งใจจริงในการเข้ามาร่วมลงทุน
อันดับที่ 4 ERW กูรูมองผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว เข้าสู่ช่วงไฮซีซันธุรกิจ-รร.JW Marriott เปิดเต็มรูปแบบ แนะนำ “ซื้อ” เป้า 7.80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป หรือ ERW ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุนพัฒนาและดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยนักวิเคราะห์ บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม ประมาณการกำไรปกติของ ERW ปี 62 – 63 ไว้ที่ 542 และ 712 ล้านบาท เติบโต 1% และ 31%จากช่วงเดียวกันปีก่อนตามลำดับ โดยคาดผลการดำเนินงานของ ERW จะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2562 จากปัจจัยหลักการเข้าสู่ช่วง High Season ของการท่องเที่ยวในประเทศ และปกติรายได้และกำไรของบริษัทในช่วงไตรมาส 3-4 จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คงราคาเหมาะสมของหุ้น ERW ที่ 7.80 บาท อิงค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ผลการดำเนินงานของบริษัทมีกำไรทุกไตรมาส ที่ 36.3 เท่า ราคาปัจจุบันยังมี Upside 27% จึงแนะนำ “ซื้อ”
อันดับที่ 5 ฟิทช์ ปรับ Outlook ประเทศไทย เป็น positive ส่วนอันดับเรตติ้ง คงเดิมที่ BBB+
มิติหุ้น- ภายหลังจากที่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้งล่าสุด ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเทศไทย ได้ทบทวนอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency – IDR) ของประเทศไทยสู่เชิงบวก (Positive) จากเดิมมีเสถียรภาพ พร้อมกับคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB+ นั้นการทบทวนแนวโน้ม IDR ของไทยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นที่ว่า ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองที่ค้างคาอยู่นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเห็นได้จากความแข็งแกร่งที่ต่อเนื่องของการเงินภายนอกและภาคสาธารณะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มีมุมมองว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพราะจะทำให้ต้นทุนถูกลง ขณะช่วงครึ่งหลังเชื่อว่ากลุ่มแบงก์ผลประกอบการน่าจะฟื้นกลับมาขณะที่ PEส่วนใหญ่ไม่เกิน 10 เท่า อัตราการจ่ายปันผลระดับ 4 %ต่อปี
