รู้ทันการลงทุน กับ KGI (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์)
ดัชนี SET index แกว่งตัว Sideway ตามคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเราประเมินว่าสัปดาห์นี้มีโอกาสที่ SET index จะ Sideway “up” ได้จากปัจจัยบวกที่รออยู่คือการแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดีหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ ปรับตัวขึ้นมารับข่าวพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ หุ้นกลุ่มค้าปลีก, หุ้นกลุ่มนิคมฯ, หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ เป็นต้น เราจึงแนะนำระมัดระวังแรงขายทำกำไร “Sell on fact” หุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นมามาก และเนื่องจากดัชนี SET index ในขณะนี้ Valuation เริ่มที่จะไม่ถูก (PE +16 เท่า, Earnings yield gap 4.2%) ทำให้เราประเมิน Upside ของดัชนี SET index ในระยะสั้นไม่มาก แต่ยังมีหุ้นหลายตัวที่ยัง Laggard และยังมี Upside ซึ่งจะเป็นเป้าหมายของการเปลี่ยนตัวเล่นของนักลงทุน
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ เราแนะนำ “Switching” หรือ “เปลี่ยนตัวเล่น” โดยประเมินหุ้นในกลุ่มที่ยัง Laggard เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (SCB, BBL, KBANK, KTB ได้อานิสงส์ เศรษฐกิจฟื้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ), กลุ่มค้าปลีกที่ยัง Laggard (ROBINS, MBK), หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (ERW, CENTEL รับประโยชน์มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2H62) และหุ้นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน (IRPC, TOP คาดผลการดำเนินงาน 2Q62 เป็นจุดต่ำสุด) รวมถึงหุ้นขนาดกลาง – เล็ก ที่น่าสนใจอาทิ DOD (Sentiment บวกจากนโยบายกัญชาเสรีสำหรับการแพทย์), ECL (ธีมดอกเบี้ยต่ำ และการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ), EPG (ธีมน้ำมันขาลง ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของอัตรากำไร และการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ) เป็นต้น
เราประเมินดัชนี SET index อาจมี Upside ที่จะปรับขึ้นเหนือระดับ +1,750 จุดได้ หากที่ประชุมเฟดทำการตัดสินลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปลายเดือนนี้ 0.5% (เดิมตลาดคาด การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายราว 0.25% แต่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดสนับสนุนให้ลดมากกว่าปกติ) แต่หากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดเพียง 0.25% หรือยังไม่ทำการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือนนี้ อาจทำให้ Upside ของดัชนี SET เริ่มจำกัด