มิติหุ้น – MDX ส่งซิกงบไตรมาส 2/62 โตฉลุย หลังโรงไฟฟ้าในมือ 850 MW จ่ายไฟฟ้าได้มากขึ้น ซุ่มศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ลาว-เมียนมา คาดสรุปเร็วๆนี้ ด้านธุรกิจนิคมไปได้สวย เด้งรับ EEC หนุนยอดขายที่ดินพุ่ง ล่าสุดไทย-ต่างชาติ จองซื้อที่ดิน 540 ไร่ ทั้งปีปักธงรายได้โต 10%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงาน บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์ หรือ MDX ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภคพื้นฐาน และพลังงาน โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 71.02 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 233.44 ล้านบาท เป็นผลมาจากการเติบโตของทั้ง ธุรกิจนิคมฯ ที่คิดเป็นสัดส่วน 31.85% ของรายได้รวม และ ธุรกิจพลังงาน ที่คิดเป็นสัดส่วน 56.75%ของรายได้รวม
รับทรัพย์พลังงาน850MW
โดย “ธุรกิจพลังงาน” ที่ดำเนินงานผ่าน “บมจ.จี เอ็ม เอส เพาเวอร์หรือ GMS” ซึ่ง MDX ถือหุ้น 52.01% ซึ่ง GMS มีโครงสร้างธุรกิจเป็น Holding Company ถือหุ้นใน บริษัทย่อย 100% ปัจจุบัน GMS มีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหาร ซึ่งผลิตเชิงพาณิชย์ หรือ COD แล้วทั้งสิ้น 850 เมกะวัตต์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ MDX ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนโรงไฟฟ้ามากขึ้น
แบ่งเป็น 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าความร้อนร่วมบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ขนาด 350 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำเทิน-หินบูน ที่สปป.ลาว อีก 500 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 2 แห่งมีสัญญาขายพลังงานไฟฟ้า ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
พร้อมกันนี้บริษัทจะแสวงหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะใน สปป.ลาว และสหภาพเมียนมา เพราะเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง แต่ไฟฟ้ายังมีไม่เพียงพอ โดยในส่วน สปป.ลาวนั้น จะเน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และจะเน้นลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหลัก
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การเข้าร่วมประมูล โครงการโรงไฟฟ้าภาครัฐด้วย
จ่อขายที่ดิน 540 ไร่
ขณะที่ “ธุรกิจนิคมฯ” ปัจจุบันที่ดินของบริษัทตั้งอยู่ในโซน “แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)” ทำให้ที่ผ่านมามีกลุ่มนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศเข้ามาเจรจาขอซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก แม้ว่าปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเหลือขายเพียงประมาณ 540 ไร่ มูลค่าปะมาณ 1.5-2 พันล้านบาท อย่างไรก็ดีบริษัทก็อยู่ระหว่างพิจารณาหาที่ดินในโซนดังกล่าวมาพัฒนาเพื่อขายเพิ่มเติมในอนาคต โดยทั้งปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ที่ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้เพียง 1.14 พันล้านบาท
