มิติหุ้น-แถลงผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2562 กำไรสวนกระแส เดินหน้าสร้างฐานธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนเน้นพัฒนานวัตกรรมพลังงานทดแทน ยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าด้วยห้องปฏิบัติการทดสอบไมิติหุ้น-บมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO)ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) โดย นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยถึงงบการเงินรวมก่อนสอบทาน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,790 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 7 จากไตรมาสก่อน โดยมีกำไร 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 84 จากไตรมาสก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากการตั้งประมาณการค่าใช้จ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ที่เพิ่มสิทธิค่าชดเชยกรณีพนักงานเกษียณอายุจาก 300 วันเป็น 400 วัน ทำให้ต้องตั้งประมาณการสำรองค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้ เป็นจำนวน 124 ล้านบาท
“ไตรมาสนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้ประมาณ 113 ล้านบาท แต่เนื่องจากเราต้องตั้งประมาณการค่าใช้จ่ายตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ที่เพิ่มสิทธิค่าชดเชยพนักงานเกษียณอายุจาก 300 วัน เป็น 400 วัน เมื่อหักลบในส่วนนี้แล้วจึงทำให้กำไรลดลงจากไตรมาสแรก ” นายนำพล กล่าว
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2562 เอสซีจี เซรามิกส์ มีรายได้จากการขาย 5,802 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 182 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากกำไรจากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมหนองแค
นายนำพล กล่าวอีกว่า “บริษัทฯ มีแผนการรองรับโดยเร่งขยายการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLM โดยไตรมาสที่ผ่านมาสามารถเจาะตลาดและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้หลายราย ซึ่งย้อมรับว่าผลกระทบจากการแข็งตัวของค่าเงินบาทจะมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แต่ยอดขายในตลาด CLM
ส่วนด้านกลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญ คือ โครงการลดต้นทุนด้านพลังงานที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการพลังงานทดแทน ล่าสุด “โครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำและบนหลังคาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำประปานิคมอุตสาหกรรมหนองแค” โดยโครงการระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีการติดตั้ง 2 ระบบ คือ แบบบนหลังคาและแบบลอยน้ำ ซึ่งแบบลอยน้ำสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าแบบบนหลังคา 9% และยังลดการระเหยน้ำในบ่อได้ 7% ส่งผลให้บริษัทลดการใช้ไฟฟ้าจากภายนอกได้ถึง 14% จากกำลังการติดตั้งทั้งสิ้น 160 Kw
นอกจากนี้นายนำพล กล่าวอีกว่า บริษัทยังให้บริการด้านคำปรึกษาแนะนำ จำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบโซลาร์เซล ให้กับหน่วยงานภายนอก ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราเริ่มมีรายได้จากหน่วยงานนี้ด้วย
www.mitihoon.com