ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค หรือ ECF โดย “นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์” กรรมการผู้จัดการ เผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ๆทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าภายในปี 62 นี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหาร 150 MW ภายในปี 65 และเพิ่มสัดส่วนกำไรมาจาก “ธุรกิจพลังงาน” เป็น 60-70% จากปัจุบันมีไม่ถึง 20%
โชว์งบQ2โตฉลุย
ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยหลักๆมาจากการขยายตลาด “ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” ซึ่งตลาดในประเทศ บริษัทจะมุ่งเน้นกระตุ้นยอดขายผ่านแบรนด์ Costa ,ขยายตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติม จากปัจจุบันได้กระจายทั่วประเทศแล้วกว่า 1,500 แห่ง รวมถึงขยายช่องทางจำหน่ายผ่านร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ ECF OUTLET บนพื้นที่โชว์รูม “แสงอุดมไลท์ติ้ง รังสิต” เปิดโชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ทุกแบรนด์ ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของบริษัท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศ และสร้างความหลากหลายของช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ด้านที่ตลาดต่างประเทศเติบโตได้ดีเช่นเดียวกัน เพราะกลุ่มลูกค้าหลักในญี่ปุ่น และ กลุ่มลูกค้ารายใหม่ในจีน ฟิลิปปินส์ ได้สั่งออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทมีการวางแผนบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
บุ๊กโรงไฟฟ้ามินบู-Q3แรง
ขณะที่ผลงานไตรมาส 3/62 จะเติบโตโดดเด่น เพราะเป็นไตรมาสแรกที่เริ่มบัญทึกส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้ามินบูเฟส 1 ขนาด 50 MW คาดมีส่วนแบ่งกำไรเข้ามาเฉลี่ย 20 ล้านบาท/ไตรมาส ทั้งนี้บริษัทจะเร่งเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้ามินบูเฟสที่ 2,3,4 (50MW, 50MW, 70 MW)ต่อไป คาดจ่ายไฟครบ 220 MW ภายในปี 65 สร้างรายได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท/ปี
โดยโครงการ “โรงไฟฟ้ามินบู ขนาด 220 MW” ECF ลงทุนผ่านบริษัทย่อย อย่าง “บจ อีซีเอฟ พาวเวอร์ หรือ ECF-Power” เข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าดังกล่าวในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด (กำลังไฟฟ้าตามส่วนแบ่งถือหุ้น 44 MW) สำหรับทั้งปี 62 ยังคงเป้ารายได้เติบโตนิวไฮไว้ที่ 10-12 % จากปีก่อน