ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้นรายงานว่า นายรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ระบุว่าจากข้อความในทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ได้สร้างความวิตกว่าสหรัฐอาจต้องการเข้าสู่เกมปั่นค่าเงิน โดยทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐควรทำเหมือนกับจีนและยุโรปที่พยายามปั่นค่าเงินของตนเอง และทรัมป์อยากเห็นเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพื่อตอบโต้ความพยายามของประเทศต่างๆ ในการทำให้สกุลเงินของตนเองมีค่าถูกเกินจริง เพื่อชิงความได้เปรียบทางการค้า
ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงที่ทรัมป์อาจกดดันให้รัฐบาลขายดอลลาร์ ท่ามกลางการประเมินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ว่าดอลลาร์อยู่ในระดับที่แพงเกินไป (Overvalued) เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ จากข้อมูลในอดีต กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขายดอลลาร์เพื่อเข้าพยุงเงินยูโรซึ่งร่วงลงต่ำกว่าระดับ 90 เซนต์ต่อยูโรในปี 2543 (กราฟด้านล่าง) โดยในครั้งนั้น รัฐบาลสหรัฐใช้เงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ มองว่าหากสหรัฐเลือกใช้กลยุทธ์ตาต่อตาฟันต่อฟันกับการแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นการเปิดสมรภูมิสงครามค่าเงินอย่างเต็มรูปแบบ สหรัฐ เองอาจจะได้ไม่คุ้มเสียในเกมนี้ และเชื่อว่าสหรัฐจะไม่เลือกเดินเกมดังกล่าว เนื่องจากโอกาสประสบความสำเร็จในการทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญนั้นมีน้อย หากไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารกลางหลักแห่งอื่นๆ
ขณะที่ความเสียหายจะขยายวงเกินกว่ามิติค่าเงิน ดอลลาร์ในสถานะสกุลเงินสำรองของโลกจะถูกกังขาอย่างใหญ่หลวง ขณะที่การข่มขู่ด้วยบัญชีรายชื่อประเทศที่เข้าข่ายต้องจับตา (Watch List) เกี่ยวกับนโยบายค่าเงินย่อมไร้ความหมาย อย่างไรก็ดี นักลงทุนอาจได้ยินความเห็นลักษณะนี้จากทรัมป์ต่อไป แม้ตลาดจะไม่เชื่อในการดำเนินการแทรกแซงแต่เสียงรบกวนดังกล่าวสะท้อนความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายของสหรัฐ ซึ่งจะกดดันค่าเงินดอลลาร์ได้บ้างบางส่วน
