มิติหุ้น-SMT ซุ่มเจรจาพันธมิตรทั้งไทย-ต่างประเทศ เพื่อ“ร่วมทุน-เทกโอเวอร์” หวังขยายไลน์ธุรกิจใหม่ มีลุ้นปิดดีลได้ภายในปี 62 นี้ สุดปลื้มรายใหญ่ “สหรัฐ-จีน” เตรียมป้อนดีลใหญ่ Fiber Optic จัดทัพขยายตลาดสู่ สหรัฐ- ยุโรป-ญี่ปุ่น-แถบเอเชีย เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทำเงิน ทั้งปี 62 รายได้พุ่ง 40%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดย “นายกรทักษ์ วีรเดชะ” ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน เผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้เปิดกว้างเจรจาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมทุน หรือ ซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) หวังขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงของฐานรายได้ ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้ให้ความสนใจอยู่ในหลากหลายธุรกิจ และมีโอกาสได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ด้านฐานเงินทุนนั้น มีเพียงพอ เพราะปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดสูง และสามารถขอวงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ หากมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ๆ
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 จะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพราะทุกธุรกิจยังเติบโตได้ดี แม้ปัญหา “สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน” จะกระทบให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทในสหรัฐชะลอการสั่งออเดอร์ลงไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นๆเท่านั้น และคาดว่าปริมาณออเดอร์จะเริ่มทยอยเข้ามาอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3และ 4/62
สหรัฐ-จีนป้อนดีลใหญ่
ดังนั้นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3-4/62 จะเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะ “ ธุรกิจ Fiber Optic” หรือ อุปกรณ์สำหรับการสื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนำแสง ที่คิดเป็นสัดส่วน 29.75% ของรายได้รวม ปัจจุบันมีความต้องการสูงมาก โดยบริษัทได้รับจ้างผลิตและประกอบอุปกรณ์สำหรับการสื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนำแสงสำหรับการนำไปใช้ใน ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Data Center) และ การกระจายเสียงและการแพร่ภาพออกอากาศ (Broadcast) ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ให้มาร์จิ้นสูงเฉลี่ย 30-70% จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น และล่าสุดบริษัทเพิ่งได้ลูกค้ารายใหญ่เข้ามาเพิ่มอีก 2 ราย คือ “สหรัฐ และ จีน” เชื่อว่าจะสั่งออเดอร์ล็อตใหญ่เข้ามาในเร็วๆนี้
ส่วน “ธุรกิจประกอบและทดสอบแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC Packaging)” คิดเป็นสัดส่วน 64.54% นั้น ในช่วงไตรมาส 3และ 4/62 ปริมาณออเดอร์ก็จะทยอยเข้ามามากขึ้นเช่นเดียวกัน ด้านธุรกิจใหม่ อย่าง “ธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์” อยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าหลายโครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในเร็วๆนี้
รุกขยายตลาด-ทุ่มงบอัพฐาน
อย่างไรก็ดีจากปัญหา “สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน” ทำให้บริษัทมีแผนขยายตลาดใหม่ๆ มากขึ้น เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆในเอเชีย โดยมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในแต่ละทวีปมากขึ้น เพื่อให้การขยายฐานลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วย
ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพื่อสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ หวังเพิ่มกำลังผลิตรองรับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 2,570 ล้านชิ้น/ ปี แบ่งเป็น IC Packaging กำลังผลิตที่ 2,519 ล้านชิ้น/ ปี และ ชิ้นอิเล็กทรอนิกส์ (MMA) ที่ 51 ล้านชิ้น/ปี รวมถึงปรับปรุงประสิทธิการผลิตให้ดีขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดสูงพร้อมที่จะลงทุน ส่วนทั้งปี 62 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2.4 พันล้านบาท เติบโต 40% จากปีก่อน