ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ โดยนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส เปิดเผยว่า การลงทุนใน SET ช่วงครึ่งหลังปี 62 คาดตลาดจะได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีหลังฟื้นตัว หลังไม่ต้องตั้งสำรองจ่ายพนักงาน และผลบวกจากมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนของรัฐบาล รวมทั้งความคาดหวังสภาพคล่องโลกที่ดีขึ้นจากการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักๆ ของโลก ประกอบกับการที่ไทยมีโอกาสที่จะถูกปรับอันดับเครดิตดีขึ้น และความคาดหวังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะบรรลุข้อตกลงได้
ทั้งนี้ คาดจะทำให้มี Fund Flow ไหลเข้าไทยต่อเนื่อง ซึ่งคาดทั้งปี 62 จะมีเข้ามาไม่น้อยกว่า 1.5 แสนล้านบาท จากต้นปีถึงปัจจุบันมีเข้ามาแล้วราว 4.5 หมื่นล้านบาท โดยประเมินเป้าหมาย SET Index ปี 62 ไว้ที่ 1,785 จุด ภายใต้สมมติฐาน EPS ที่ 104 บาทต่อหุ้น สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจครึ่งปีหลัง แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มสื่อสาร, กลุ่มรับเหมา, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม, กลุ่มขนส่ง, กลุ่มการเงิน (สินเชื่อเช่าซื้อขนาดเล็ก), กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอาหาร
อย่างไรก็ตาม แนะนำเลี่ยงลงทุน กลุ่มมีเดีย ที่เข้าสู่ช่วงขาลง, กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน, ส่วนกลุ่มเฝ้าระวัง ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ส่วนมาตรการหักลงหย่อนภาษีจากการลงทุน LTF ที่กำลังจะหมดอายุในปี 62 นี้ คาดว่าจะมีการทดแทนด้วยกองทุนใหม่ ซึ่งมีเงื่อนไข 1.ให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 20% ของเงินลงทุน แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท และไม่เกินภาระภาษีที่ต้องจ่าย ต้องลงทุนชั้นต่ำเป็นระยะเวลา 10 ปี 2.เม็ดเงินที่ได้จากกองทุนใหม่ 50% จะไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ออกโดยภาครัฐ และลงทุนในหุ้นยั่งยืนใน SET อีก 50% ให้สิทธิ บลจ.เลือกลงทุนได้อิสระ
“เห็นด้วยกับเงื่อนไขของกองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุน LTF เดิม ที่เสนอโดย FETCO แต่คาดว่าต้องออกให้ทันก่อนสิ้นปี 62 ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบที่ตามมารุนแรงมากจากการขายออกของนักลงทุน” นายประกิต กล่าวทิ้งท้าย
