มิติหุ้น-ROJNA แรงเข้าตาโบรก ประเมินกำไรไตรมาส 2/2562 โตระเบิดหลังบันทึกกำไรพิเศษมากเป็นพิเศษ เนื่องจากราคาหุ้น GULF ปรับขึ้นมากถึง 29% แถมเป็นหุ้นจ่ายเงินปันผลสูงลิ่ว 7% ด้านผู้บริหารการันตีลุยพัฒนาที่ดินเขต EEC เพิ่ม 2 พันไร่ จากเดิมมีที่ดินรอขายแล้ว 3 พันไร่ รองรับขยายลงทุนเพิ่ม ชี้มียอดขายรอโอนราว 500 ไร่แล้ว
ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ประเมินพื้นฐานหุ้น บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ หรือ ROJNA ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปนิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจ ว่าได้ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 7.29 บาท ตามการปรับประมาณการกำไรเพิ่ม และประเมินด้วยวิธี SOP ใช้ธุรกิจหลักที่ P/E ปี 62 ที่ 17 เท่า และมูลค่ากำไรจากการถือหุ้น GULF 0.74 บาทต่อหุ้น ข้อดีคือ สามารถโอนนิคมได้มากกว่าคาด ขยายพื้นที่ขายนิคมฯเขต EEC ที่มีศักยภาพต่อเนื่อง และจ่ายปันผลได้สูง คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลงวดปีนี้และปีหน้าในอัตราปีละ 7%
ทั้งนี้คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/2562 โตกระโดด เป็น 646 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -65 ล้านบาท และไตรมาสก่อนหน้า+57% เพราะไตรมาสนี้บันทึกกำไรยังไม่รับรู้ (Unrealize Gain) จากการถือหุ้น GULF มากถึง 550 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายการพิเศษเป็น -160 ล้านบาท และ +272 ล้านบาท ตามลำดับ
สาเหตุที่ไตรมาสนี้บันทึกกำไรพิเศษมากเป็นพิเศษ เนื่องจากราคาหุ้น GULF ปรับขึ้นมากถึง 29% จากไตรมาสก่อนหน้า ณ สิ้นไตรมาส 2/2562 เป็น 123.00 บาท ทั้งนี้บริษัทมีหุ้น GULF อยู่ในจำนวน 20 ล้านหุ้น โดยได้ซื้อตอน IPO ในช่วงปลายปี 2560
กำไรหลักยังเติบโตดี
อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรหลักจะไปฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 เพราะโอนนิคมฯมากจากประมาณการ พบว่ากำไรหลักในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 เป็นสัดส่วนเพียง 30% เทียบกับทั้งปี 62 เนื่องจากคาดว่าในงวดครึ่งปีแรกมีการโอนนิคมฯเพียง 209 ไร่ แต่จะมีการโอนนิคมฯในงวดครึ่งปีหลังของปี 2562 ได้มากถึง 341 ไร่
โดยยอดขายรอโอน (Backlog) ณ ครึ่งปีแรกของปี 2562 อยู่ในราว 500 ไร่ โดยอยู่ในช่วงที่ลูกค้ามีการขอบีโอไออยู่ ตลอดปีนี้คาดว่าจะมีการโอนนิคมฯทั้งสิ้น 550 ไร่ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2561 ที่โอนได้เพียง 272 ไร่ถึง 102% ถือว่ามีการโอนได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ด้านการขายนิคมฯ 1H62 ทำได้ราว 100 ไร่ แต่ตั้งเป้าทั้งปี 62 ที่ 400-500 ไร่
ด้านนางสาวอมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการอิสระ ROJNA กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 62 มั่นใจว่าจะเติบโตดีขึ้นกว่าปี 61 ที่มีรายได้รวม 12,232 ล้านบาท กำไรสุทธิ 671 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) ราว 500 ไร่ คาดว่าจะสามารถโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้มากสุด
และบริษัทมีธุรกิจโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์รวมราว 400 เมกะวัตต์ (MW) และโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาดกำลังการผลิต 24 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเติบโตขึ้น ส่วนธุรกิจขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมและบริการบำบัดน้ำเสียยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตต่อเนื่อง
ลุยพัฒนาที่ดินเพิ่ม 2 พันไร่
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาพื้นที่อีก 2,000 ไร่ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC เพื่อรองรับความต้องการลงทุนใน EEC เพิ่มขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักลงทุนจากประเทศจีน รองลงมาเป็นญี่ปุ่น จากปัจจุบันมีที่ดินพัฒนาแล้วรอขายราว 3,000 ไร่ จาก 3 นิคมอุตสาหกรรม อยุธยา แหลมบัง และบ่อวิน จ.ชลบุรี