สัปดาห์ทำการสุดท้ายของเดือน ก.ค. และต่อเนื่องในเดือน ส.ค. สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทย มีวันทำการเพียง 4 วันทำการ ซึ่งมีประเด็นสำคัญที่ตลาดทั่วโลกให้ความสนใจ คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 30-31 ก.ค. ตลาดคาดการณ์ว่า Fed น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลง ประมาณ 25-50 bps อีกประเด็นสำคัญคือ เรื่องการเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับจีน แต่จนกว่าจะได้ผลที่ชัดเจนในทั้ง 2 ประเด็น จะต้องรอถึงปลายสัปดาห์ ดังนั้น ทิศทางตลาดก่อนถึงปลายสัปดาห์มีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวแบบทรงตัว (Sideway)
ทั้งนี้ มุมมองตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ทาง KTBST คาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบตามการรายงานผลประกอบการณ์ของบริษัทจดทะเบียนอย่าง APPLE และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในช่วงวันที่ 31 ก.ค. นี้ ส่วนประเด็นเรื่อง สำหรับการเจรจาการค้านั้น คาดว่าจะมีความคืบหน้าเชิงบวกมากขึ้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยเริ่มจากการส่งสัญญาณนำเข้าถั่วเหลืองเพิ่มเติมจากทางสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบวกให้ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นๆ
อย่างไรก็ตามโดยภาพรวม ตลาดได้มีการรับรู้ในประเด็นข่าวการปรับลดดอกเบี้ยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันจากนักวิเคราะห์ พบว่า ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้ปรับตัวสะท้อนข่าวไปแล้วว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนกรกฎาคมลงราว 25 bps ในขณะเดียวกันอีกประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจเช่นกันคือการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คาดว่าจะไม่มีการปรับดอกเบี้ยแต่อย่างใดจนกว่าจะเห็นความชัดเจนของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ด้านปัจจัยในประเทศ ให้จับตาการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าจะมีมาตรการอะไรที่น่าสนใจบ้าง รวมไปถึงรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 และปัจจัยอื่นๆได้แก่ ความคืบหน้าสถานการณ์อิหร่านที่มีผลต่อราคาน้ำมัน และการเดินหน้าเรื่อง BREXIT ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ด้วยประเด็นสำคัญที่ตลาดกำลังจับตามองดังกล่าว ทำให้ KTBST ยังคงคำแนะนำลงทุนในตราสารหนี้เอกชนมากกว่าตลาด และแนะนำลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มากกว่าตลาด ในขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นเรายังคงเลือกลงทุนเฉพาะในตลาดหุ้นจีน และอินเดียจากอัตราการเจริญเติบโตที่น่าสนใจ สำหรับตลาดหุ้นไทย KTBST ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,700-1,740 จุด โดยให้น้ำหนักในหุ้นโรงไฟฟ้า , โรงพยาบาล และหุ้นที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาดี ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php
โดยชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)
www.mitihoon.com
