มิติหุ้น – นายทรงกลด ชยันต์นคร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายอิเลคทรอนิกส์เทรดดิ้ง และธุรกิจสถาบันและต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ Finansia เปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาวะหุ้นในตลาดโลกยังคงน่าสนใจและผู้ลงทุนยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์เรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงที่ผ่านมายังคงมีความไม่แน่นอน รวมไปถึงประเด็นความเสี่ยงเรื่องการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอน
สำหรับความสนใจในการลงทุนของผู้ลงทุนไทยต่อตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ทางบริษัทยังคงได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ดังเช่น เวียดนาม ซึ่งบล. ฟินันเซีย ในฐานะที่เป็นโบรกเกอร์รายแรกในการเริ่มเปิดประตูการลงทุนของผู้ลงทุนไทยสู่ตลาดเวียดนาม ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโบรกเกอร์ไทยที่ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม อันมีสาเหตุจากการขยายตัวของเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีเฉลี่ยปีละกว่า 7% และนโยบายจากภาครัฐที่สนับสนุนการเอื้อต่อการลงทุนในด้านกฏหมายและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงคุณภาพของแรงงานทั้งในภาคบริการและเทคโนโลยี อีกทั้งยังมีการพัฒนาทางการศึกษาที่สูงขึ้นที่ส่งผลต่อสภาพความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ลูกค้าของเราก็ยังแสดงความสนใจการลงทุนในตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย ทางทีมฟินันเซีย โกลโบลเทรดดิ้ง จึงได้ทำการขยายการบริการซื้อขายไปยังตลาดอื่นๆ อีก เพื่อให้ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
“ฟินันเซียได้เพิ่มการบริการซื้อขายหลักทรัพย์ไปยังตลาดสหรัฐฯ จีน รวมไปถึงฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และค่อนข้างได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีในตลาดไทย อาทิ อุตสาหกรรมประเภทเทคโนโลยี ไฮเทค อินเทอร์เน็ตหรือไบโอเทค ซึ่งทางบล. ฟินันเซียเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การที่ผู้ลงทุนได้มีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น บวกกับการบริการต่อยอดจากทีมงานของฟินันเซีย จะทำให้ผู้ลงทุนสามารถเพิ่มศักยภาพในการกระจายความเสี่ยงและบริหารเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายทรงกลด ชยันต์นคร กล่าว
นอกจากนี้ทางบล. ฟินันเซียยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเตรียมขยายไปยังตลาดอื่นๆ เพิ่มเติม โดยมองไปยังตลาดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยหลายเท่า เนื่องจากบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศเหล่านั้นมีฐานของรายได้และกำไรมหาศาล ตลอดจนสภาพตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่น มีสภาพคล่องสูง เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนและลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุน จึงมองไปยังตลาดในยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีผู้ลงทุนหลายท่านให้ความสนใจอยู่มากพอสมควร
โดยกลยุทธ์ของฟินันเซียในการขยายการลงทุนสู่ระดับสากล ได้มีการติดต่อกับโบรกเกอร์ท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดนั้นๆ อย่างแท้จริง รวมถึงการให้บริการบทวิเคราะห์หลักทรัพย์รายบริษัท เพื่อเข้ามาตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการในส่วนนี้
ทั้งนี้การเทรดหุ้นตลาดโลกของฟินันเซียมีให้บริการทั้งสิ้น 2 แพลตฟอร์มที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้แก่ผู้ลงทุนในการติดตามการลงทุนได้อย่างทันท่วงที ประกอบไปด้วย 1.SAXO Bank ที่ให้บริการด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กองทุน ETF (Exchange Traded Fund) จากหลายๆ ตลาดทั่วโลก ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเทรดผ่านทางแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป หรือนักลงทุนท่านใดที่ไม่สะดวกสามารถส่งคำสั่งผ่านทีมบริการ Central Dealing ของ Global Trading ของฟินันเซียได้ 2.VN Trade โมบายแอปพลิเคชันที่ร่วมพัฒนากับบริษัท VN Direct ของเวียดนาม ที่นักลงทุนจะสามารถลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามได้โดยตรงอีกด้วย