ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA เปิดเผยว่า บริษัทได้เจรจาพูดคุยกับพันธมิตรในประเทศสิงคโปร์เพื่อต่อยอดรับงานโรงไฟฟ้าในประเทศดังกล่าว ส่วนมูลค่างานนั้นยังไม่สามาถเปิดเผยได้ แต่คาดว่าจะมีมูลค่าสูง เพราะพันธมิตรรายดังกล่าวรับงานแต่ละโครงการจะมีมูลค่ามหาศาล
ส่วนงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 500 กว่าล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 70-80% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป
“ แบ็กล็อกที่บริษัทมีปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นงานของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF เฟสแรกจำนวน 100 ล้านบาท งานแวร์เฮ้าส์ของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) CPALL จำนวน 40 กว่าล้านบาท งานปีโตรเคมีของกลุ่ม ปตท.จำกัด (มหาชน) PTT 2 เฟสมูลค่า 40 กว่าล้านบาท และงานของ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI และงานของ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) PSH รวมกันมูลค่า130 ล้านบาท ส่วนทีเหลือจะมีงานปลีกย่อยที่รับมา” นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2562 จะออกมาทรงตัว เพราะบริษัทต้องบันทึกสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ 6-7 ล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งปีหลังผลงานจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ระดับ 700 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนที่ 15%
อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงรักษารักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 11% ใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นนั้นคาดว่าจะเติบโตที่ระดับ 28-30%
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือ บริษัทรอผลการประมูลงานใหม่ที่ยื่นไปแล้วมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานงานแวร์เฮาส์ ของบริษัท พีทีที โพลิเมอร์โลจิสติกส์ จำกัด (PTTPL) มูลค่า 300-400 ล้านบาท โดยยื่นประมูลพร้อมพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง งานโรงไฟฟ้าที่ประเทศบังคลาเทศ มูลค่า 20 ล้านบาท รวมถึงงานโรงไฟฟ้าของ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF เฟส 2 มูลค่า 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีบริษัทยังคงเชื่อมั่นที่จะผลักดันให้ผลงานเติบโตเพิ่มขึ้นได้ในทุกปี จากประสบการณ์การทำงานของ ALLA ระยะเวลา 30 ปีไม่เคยประสบผลขาดทุน อีกทั้งยังเป็นหุ้นจ่ายปันผลในระดับที่ดี
