ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. บัวหลวง (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า จากการที่กองทุนบัวหลวง ได้เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี หรือ SUPEREIF ระหว่างวันที่ 22-31 ก.ค. ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีลูกค้าให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาอย่างล้นหลาม ส่งผลให้มียอดจองซื้อทั้งผู้จองซื้อทั่วไป (นักลงทุนรายย่อย) และผู้จองซื้อพิเศษ (นักลงทุนสถาบัน) เข้ามามากเกินกว่าจำนวนหน่วยลงทุนที่มีจัดสรรไม่เกิน 412 ล้านหน่วย มูลค่า 4,120 ล้านบาท (ไม่รวมส่วนที่ บมจ. ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น ลงทุนเองด้วย)
ทั้งนี้ เมื่อนับรวมกองทุน SUPEREIF แล้ว กองทุนบัวหลวงจะมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การจัดการรวม 4 กองทุน มูลค่าตลาดรวม 134,427 ล้านบาท จากจำนวนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทยทั้งหมด 8 กองทุน มูลค่าตลาดรวม 389,925 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กองทุนบัวหลวงจะเร่งดำเนินการจัดสรรหน่วยลงทุนแบบ Small Lot First สำหรับผู้จองซื้อทั่วไป เหมือนการแจกไพ่จำนวนเท่ากันทีละรอบ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่จองซื้อน้อยได้สิทธิการได้รับจัดสรรเต็มจำนวนก่อน โดยคาดว่า จะประกาศผลการจัดสรรได้อย่างเร็วที่สุด ภายในวันที่ 2 ส.ค. 2562 นี้
ผู้จองซื้อสามารถตรวจสอบผลการจัดสรรได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ สำนักงานใหญ่และแต่ละสาขาของผู้จัดการการจัดจำหน่าย ยกเว้นสาขาไมโคร (ในวันทำการเท่านั้น) หรือเว็บไซต์ตามที่กำหนด ได้แก่ www.settrade.com หรือ www.supereif.com จากนั้น กองทุนบัวหลวงจะดำเนินการนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายในปลายเดือนสิงหาคมนี้