ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า “บมจ. สกาย ไอซีที หรือ SKY” ทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดย “นายสิทธิเดช มัยลาภ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 จะอยู่ในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
เนื่องจากบริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 5.9 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3 พันล้านบาท โดยเฉพาะ “โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C)” กลุ่มที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 มูลค่า 2,658 ล้านบาท และกลุ่มที่ 6 ภาคกลาง 1 มูลค่า 2,196 ล้านบาท
บุ๊กกำไร Raytelเข้าพอร์ต
ทั้งนี้ผลงานในช่วงครึ่งปีหลัง จะเติบโตโดดเด่น เพราะบริษัทเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ๆอีกหลายร้อยล้านบาทด้วย ส่วนใหญ่เป็นงาน Security คาดหวังได้งานมากกว่า 80% พร้อมกันนี้ในช่วงไตรมาส 3/62 บริษัทจะเริ่มรับรู้กำไรและรายได้จากธุรกิจที่พึ่งซื้อกิจการเข้ามาด้วย อย่าง “บจ.เรย์ เทล โฮลดิ้ง”
เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทได้อนุมัติเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ไม่เกิน 50 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท ราคาเสนอขาย 12 บาท/หุ้น เพื่อแลกซื้อกิจการ “บจ.เรย์ เทล โฮลดิ้ง หรือ Raytel Holding” มูลค่ารวมไม่เกิน 600 ล้านบาท และการโอนกิจการทั้งหมดของ Raytel Holding นั้น ยังรวมถึงบริษัทย่อยที่ถือ 99.98% อย่าง บจ.เรย์ เทล หรือ Rayte ด้วย โดย Raytel ทำธุรกิจผู้รับเหมางานจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ ICT และให้บริการบำรุงรักษาหลังการขาย
“ หลังจากรับโอนกิจการ Raytel Holding จะมี1ในผู้ถือหุ้น 3 ราย คือ “นายรีวิน เพทายบรรลือ” จะเป็นปรึกษาและแนะนำแผนธุรกิจของ Raytel ไปจนถึง 31ธ.ค.64 และให้คำรับรองว่าในปี 63และ64 Raytel ต้องมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 34 ล้านบาท/ปี หากปีใดต่ำกว่า “นายรีวิน” ตกลงชำระเงินชดเชยให้” นายสิทธิเดช กล่าว
ฮุบZone Cกลุ่ม5-รายได้พุ่ง300%
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาการที่ Raytel ได้ร่วมกับ ICN ในนามของ IR Consortium เพื่อเข้ารับงานของ “บมจ.กสท โทรคมนาคม หรือ CAT” เพื่อทำ “โครงการ Zone C” กลุ่ม 5 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่า 2.42 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นงานของ Raytel ประมาณ 49% ดังนั้นเท่ากับว่า SKY ก็ได้เข้ารับงาน Zone C เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ขณะเดียวกันวันที่ 21 ส.ค.นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว Application ในโครงการจัดทำ Digital Platform ตามนโยบาย AOT 4.0 ของ AOT อย่างเป็นทางการ ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจทั้งกำไรและรายได้จะทำนิวไฮ โดยอัตรากำไรสุทธิจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% (ซึ่งยังไม่รวมส่วนแบ่งกำไรจาก TKC ที่ถือหุ้น 34%) ส่วนรายได้จะเติบโตเกิน 300% หรือไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท