ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT โดย “แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์” ประเมินจากเหตุระเบิดป่วนกรุงหลายจุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 2 ส.ค.62) ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลต่อความไม่ปลอดภัย แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระยะสั้นเชื่อว่าไม่กระทบธุรกิจ ทั้งนี้เมื่อเทียบกับการเกิดเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ราคาหุ้น AOT ปรับตัวร่วงลงไปประมาณ 7% แต่หลังจากนั้นใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ ราคาหุ้นก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/62 คาดเติบโตใกล้เคียงปีก่อน และคาดแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปี 62 จะเติบโตต่อเนื่อง จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะทยอยกลับมาเพิ่มขึ้น
มีอัพไซด์เพิ่ม Non-aero
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า จาก AOT ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-aero) จาก 45% เป็น 60% ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ประทับใจแผนการเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ และทางฝ่ายวิเคราะห์เห็นว่ามี upside เพิ่มเติม และตลาดยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ ข้อแรกคือการประมูลสัมปทานที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ เคาน์เตอร์รับสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิและร้านปลอดภาษีและค้าปลีกที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 63
อัพไซด์ต่อมาคือโครงการ Airport City โดย ทอท. มีที่ดิน 2 แปลงเพื่อพัฒนาโครงการเชิงการพาณิชย์ ซึ่ง ทอท. จะเปิดประมูลสัญญาสำหรับผู้ประกอบการเอกชนและรับส่วนแบ่งรายได้จากโครงการเหล่านี้ คาดจะเห็น TOR ในปี 63 นอกจากนี้ ทอท. ยังได้เริ่มประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าด้วยตนเอง อยู่ในขั้นตอนการตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Certify Hub) ก่อนส่งออก ซึ่งน่าจะดึงดูดสินค้าในพื้นที่ CLMV มาใช้บริการส่งออกในไทยมากขึ้น
สัญญาณท่องเที่ยวฟื้น
อย่างไรก็ตาม ประเมินกำไรหลักไตรมาส 3/62 น่าจะทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลประกอบการและราคาหุ้นที่อ่อนตัวจะเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นเพื่อลุ้นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทยในครึ่งหลังของปี 62 นี้ จากข้อมูลเบื้องต้นจาก AOT เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวก โดยจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเติบโต 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 12% MoM ในเดือนกรกฎาคม ในขณะเดียวกันปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศที่สนามบิน HKT ฟื้นตัวขึ้น 1% ในเดือนกรกฎาคม
สำหรับราคาหุ้น AOT ยังแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเป้าหมายพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงที่ 85 บาท เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มการท่องเที่ยว เนื่องจากมีอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น EPS ที่แข็งแกร่ง CAGR 25% ในปี 62-64