ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย โดยนางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร เปิดเผยว่า ภาพรวมสินเชื่อทั้งปี 62 ยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20-30% โดยจะเป็นการเติบโตจากการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งธุรกิจ “นายหน้าประกันวินาศภัย” ที่สามารถสร้างยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมายังเห็นสัญญาณการขยายตัวต่อเนี่องจากไตรมาส 1/62 ที่สินเชื่อเติบโต 21% เป็นไปตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนสาขา และตวามต้องการใช้เงินสดของลูกค้า
“ บริษัทยังคงเดินหน้าการเปิดสาขาใหม่ตามแผนอีก 200 – 300 แห่งในปี 62 จากสิ้นปี 61 ที่มี 2,870 แห่ง จะเน้นขยายสาขาตามภูมิภาคเป็นหลัก รวมทั้งมองหาโอกาสในการเข้าประมูลซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงินมาบริหาร คาดว่าจะสามารถซื้อมูลหนี้มาบริหารได้ทั้งหมด 10,000-15,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในการเข้าซื้อหนี้เสียไว้ที่ราว 2,000 ล้านบาท”นางสาวธิดากล่าว
อย่างไรก็ดีในสัปดาห์ที่ผ่านมา บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD แจ้งผลการทำคำเสนอซื้อหุ้น บง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) มีผู้เสนอขายทั้งสิ้น 22,521,197 หุ้น คิดเป็น 4.09% ซึ่งบริษัทรับซื้อไว้ทั้งหมด ซึ่งน้อยกว่าที่เสนอซื้อ 121,530,031 หุ้น หรือคิดเป็น 22.05% โดยภายหลังการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทถือหุ้นใน BFIT เพิ่มเป็น 82.04% จากเดิม 77.95% ทั้งนี้ SAWAD ทำคำเสนอซื้อหุ้น BFIT ระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.-26 ก.ค.62 โดยเสนอซื้อที่ราคาหุ้นละ 18 บาท
พื้นฐานเด่น
ด้าน บมจ.หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ระบุในบทวิเคราะห์ SAWAD ว่า ภายหลัง BFIT ขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม ส่งผลให้ SAWAD ถือหุ้น BFIT อยู่ 77.95% ซึ่งต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ BFIT ซึ่งล่าสุดมีผู้เสนอขายเพียง 4.09% ส่งผลให้ SAWAD ถือหุ้น BFIT รวม 82.04%
ในมุมของฝ่ายวิจัยมองว่า การทำคำเสนอซื้อหุ้นในครั้งนี้ทำให้ SAWAD ถือหุ้น BFIT ในสัดส่วนสูงถึง 82% ซึ่งจะทำให้ SAWAD สามารถปรับโครงสร้างกลุ่มอีกครั้งเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดได้อย่างเต็มที่ เพราะจะสามารถรับรู้รายได้และกำไรจาก BFIT ได้เต็มๆ ทั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปี62 และปีต่อๆ ไปดีขึ้นด้วย มีโอกาสปรับประมาณการกำไรขึ้นหลังรับรู้กำไรจาก BFIT ได้เพิ่มขึ้น และอยู่ระหว่างการทบทวนปรับปรับราคาเป้าหมายขึ้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 59 บาท
โบรกเคาะราคา64บ.
ขณะที่ บมจ.หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคาะห์ว่า คาดแนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 2/62 ของ SAWAD ที่อยู่ในระดับดีจะเป็นปัจจัยหนุนบวกหลักให้มีการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยคาดจะมีกำไรสุทธิที่ราว 871 ล้านบาท (+44% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ +3% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)) พร้อมคาดแนวโน้มสำรองหนี้จะเริ่มเพิ่มขึ้นกลับสู่ระดับปกติตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป ผนวกกับ SAWAD ถือ BFIT เพิ่มขึ้นเป็น 82% หลังเสร็จกระบวนการทำเทนเดอร์ ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ SAWAD หลังปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2563 ที่ 64 บาทต่อหุ้น
