SEAFCOเสาเข็มทองคำ ตอกย้ำกำไรปีนี้ดังสนั่น

246

มิติหุ้น-SEAFCO เตรียมร่อนงบไตรมาส 2/62 วันที่ 14 ส.ค. นี้มั่นใจผลงานยังโตสดใส พร้อมเดินหน้าปั๊มออเดอร์ใหม่หนุนยอดพุ่ง ล่าสุดชูตัวเลขแบ็คล็อก 3,300 ล้านบาท “ด้านณรงค์  ทัศนนิพันธ์” โชว์ความแกร่งครึ่งปีหลังรุกประมูลโครงการใหม่เพียบ ฟากโบรกเคาะกำไรทั้งปียังงอกงามแนะ “ซื้อ” เป้าหมาย 11.00 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) SEAFCO ผู้รับก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ งานฐานราก และงานโยธาทั่วไป โดยแหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรม เผยว่า SEAFCO บริษัทจะประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อจะพิจารณางบการเงินประจำไตรมาส 2/2562 ในวันที่ 13 ( ส.ค.62 ) และจะรายงานผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) ในวันที่ 14 ( ส.ค.62 ) โดยเบื้องต้นยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จำนวน 662.29 ล้าานบาทและกำไรสุทธิจำนวน 93.42 ล้านบาท

บิ๊กย้ำผลงานยังแกร่ง       

ด้านนายณรงค์  ทัศนนิพันธ์  กรรมการผู้จัอการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) SEAFCO ภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 2562 ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่างานในมือ (Backlog ) ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,300 ล้านบาท ดังนั้นมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้จำนวน 2,789.72 ล้านบาท กำไรสุทธิจำนวน 368.32 ล้านบาท

“ผลงานในครึ่งปีแรกยังคงเติบโตได้ในระดับที่ดีตามที่บริษัทได้วางแผนเอาไว้ อีกทั้งเราอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานโครงการต่าง ๆ มูลค่ารวมมากกว่า 20,000 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการภาครัฐ โดยเรายังคงมั่นใจว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาทดแทนงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ไปแล้ว “ นายณรงค์กล่าว

อย่างไรก็ดีช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้ไปหากประเมินตาม Action Plan ในปี 2562 รวม 41 โครงการ วงเงินลงทุน 1.77 ล้านล้านบาท จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มฐานงานในมือที่ปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท

โบรกมองพื้นฐานเยี่ยม    

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินเป้าหมายหุ้น SEAFCO ที่ 11.00 บาท จากการรับรู้รายได้ที่สูงทำให้งานในมือของ SEAFCO ลดลงเป็น 2.3 พันล้านบาท แต่มีโอกาสได้งานหลายโครงการ เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจาก CK, ทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง ที่จะรู้ผลการประมูลสิ้นปี ทำให้ผลประกอบการ ช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 จะอ่อนแอลงจากครึ่งปีแรก และงานในมือจะเพิ่มอีกทีตอนสิ้นปี

อย่างไรก็ดียังคงแนะนำให้ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 11 บาท (PER 21.4 เท่าสำหรับปี 2562) โดยยังชอบ SEAFCO ในระยะกลาง – ยาว