SKEฟันธง ครึ่งปีหลังรายได้เติบโตแรง-โรงไฟฟ้าจ่ายไฟแล้ว

131

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี (จำกัด) มหาชน หรือ “SKE” เปิดเผยว่า บริษัทฯมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งขึ้น หลังจาก เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่-โรงไฟฟ้าชีวมวลในไตรมาส 3 ซึ่งเมื่อรวมกับรายได้จากธุรกิจเดิมคือ บริการอัดก๊าซธรรมชาติ โดยในครึ่งปีแรกปี 2562 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 149.82 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 มีรายได้172.50 ล้านบาท

เนื่องจากปริมาณการอัดก๊าซที่ ลดลง จากสภาวะอุตสาหกรรมขนส่งที่ลดลงตามปริมาณการส่งออกนำเข้าของประเทศ และจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีการใช้ก๊าซ NGV น้อยลง โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 23.88  ล้านบาท  เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 30.74 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการบริหารงานและค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้น

 SKE ประสบความสำเร็จในการเปิดการจำหน่ายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง จังหวัดแพร่ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายใต้สัญญาขายไฟ 8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอัตราค่ารับซื้อไฟเฉลี่ยที่4.62 บาท      ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี ซึ่งนับเป็นอัตราการขายไฟสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลที่สูงที่สุดในปัจจุบัน (สูงกว่าอัตราการขายไฟฟ้าในโครงการ SPP Hybrid ซึ่งคาดว่าอัตราการจำหน่ายไฟฟ้าที่ 1.80-2.00 บาท ต่อหน่วย)   ซึ่งโรงไฟฟ้า  แม่กระทิงมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 9.9 เมกะวัตต์ และที่สำคัญ บริษัทฯ  ได้ปิดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ

โดยการทำข้อตกลงการซื้อขายวัตถุดิบสำหรับผลิตไฟล่วงหน้ากับผู้ผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิง Wood Pellet (เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด)  รายใหญ่ในภาคเหนือ และ บริษัท แพร่กรีนพาวเวอร์ จำกัด (“PGP”) เป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี เท่ากับอายุสัญญาของเวลาขายไฟฟ้าที่มีกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงเป็นการปิดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบได้อย่างครบถ้วน ซึ่งจังหวัดแพร่เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า  1 ล้านไร่จึงมีของเสียจากการเกษตร มาใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลได้จำนวนมาก และโรงไฟฟ้าแม่กระทิงเป็นโรงไฟฟ้าแบบ Multi-fuel จึงสามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลายประเภท

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะต่อยอดความสำเร็จจากโครงการโรงไฟฟ้าแม่กระทิง ด้วยการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนให้ได้กว่า 30 เมกะวัตต์ และ สร้างรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ภายในปี 2022 เพื่อสร้างฐานธุรกิจพลังงานที่เติบโตและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกคนและเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ”   

 SKE มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจด้านพลังงานอย่างครบวงจร ซึ่งธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจบริการอัดก๊าซ NGV    ให้รถขนส่งก๊าซธรรมชาติของ บริษัท ปตท. จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีสถานีก๊าซธรรมชาติของบริษัท 2 สถานี คือ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักปทุมธานี และ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักสระบุรี ซึ่งมีกำลังการอัดก๊าซสูงถึง 750 ตัน/วัน จึงมีแหล่งที่มาของเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้านานถึง 20 ปี

  1. 2. ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด9.9 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญาขายไฟฟ้า จำนวน8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอัตราค่ารับซื้อไฟเฉลี่ยที่ 4.62 บาท ต่อหน่วยตลอดอายุสัญญา 20 ปี 
  2. 3.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) จากน้ำเสียในจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้บริษัทย่อย ซึ่งเมื่อรวมรายได้จากทั้ง3 ธุรกิจนี้ ทำให้ SKE มีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง ต่อเนื่องระยะยาว จากกลุ่มลูกค้าที่มีสถานะการเงินที่ดีที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ SKE กำลังมองหาโอกาสในการเติบโตในธุรกิจพลังงานสะอาด และด้วยสถานะการเงินที่เข้มแข็ง มีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ดี คือ 0.59 เท่า SKE จึงมีศักยภาพในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”

www.mitihoon.com