GBS มองสงครามการยืดเยื้อ ฉุดเศรษฐกิจโลกพัง แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น High Dividend ชี้เป้าตัวเด็ด เคาะราคาทองยังไปต่อ

110

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลง จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนจะยังยืดเยื้อต่อเนื่อง และไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีหน้า ประกอบกับโกลด์แมน แซคส์ได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 2.0% โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มากกว่าคาด ประเมินดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,620-1,655 จุด

ผนวกกับแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น สวนทางกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก และเงินหยวนที่อ่อนค่า ยังเป็นปัจจัยลบต่อการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากความกังวลต่างๆ ดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุดดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือน ก.ค. 2562 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แตะระดับ 46.7 ต่ำสุดในรอบ 13 เดือน

โดยนางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นการลงทุนนั้นยังไม่มีอะไรใหม่เพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกอาจเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางยังไม่มีแนวโน้มที่จะคลี่คลาย ส่วนกรณีที่ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.อนุมัติแพคเกจกระตุ้นศก.ชุดใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลังวงเงิน 5 หมื่นล้านบาทภายในเดือนสิงหาคมนี้ ยังคงต้องใช้เวลาในการพิจารณา

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น High Dividend เช่น SIRI, QH, TISCO, KKP และ ANAN รวมถึงหุ้น Defensive Stock เช่น EASTW, TTW, BCH, CPALL และ BJC นอกจากนี้ยังแนะนำลงทุนใน หุ้น Theme EEC play เช่น AMATA, WHA, ROJNA, EASTW และ ATP30

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากส่งครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และกองทุน SPDR ที่ยังซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ มองกรอบราคาทองคำสัปดาห์นี้ที่ 1,500-1,540 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 21,860-22,500 บาท