ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางสาวอรลดา เผ่าวิบูล รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยเศรษฐกิจประกันภัย หรือ TSI Insurance เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ 54.1 ล้านบาท ส่วนในช่วงที่เหลือของปี บริษัทยังเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว ด้วยการวางกลยุทธ์สร้างความแข็งแกร่งจากเสาหลัก 2 ด้าน คือ ด้านบุคลากรและด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินธุรกิจให้มากขึ้น และลดขั้นตอนการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีช่วยขับเคลื่อนทั้งด้านการขายและบริการสินไหม ล่าสุด บริษัทได้เริ่มต้นเฟสแรกด้วยการเปลี่ยนระบบ Core Insurance ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ ทั้งนี้เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยให้โครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการวางโครงสร้างเพื่อเตรียมรองรับการทำ Data Analytic เพื่อเข้าสู่ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ มุ่งสู่ความเป็น Insuretech ในที่สุด
“ในส่วนของการปรับโครงสร้างทางการเงิน เมื่อแผนเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,081,754,992 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นไปอย่างเรียบร้อยภายในไตรมาส 4 แล้ว บริษัทจะเดินหน้าขยายงานตามแผนธุรกิจเชิงรุก รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการลงทุน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรโดยร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกันภายใต้รูปแบบการทำงานที่ตอบโจทย์ คล่องตัวและยืดหยุ่นกับทุกสถานการณ์” นางสาวอรลดากล่าว
ด้านนางสาวคณิดา นิมมาณวัฒนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ว่า บริษัทมีผลกำไรสุทธิจำนวน 54.1 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุนสุทธิจำนวน 1.1 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เกิดจากค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ลดลงจำนวน 52.9 ล้านบาท โดยค่าสินไหมทดแทนลดลง 36.5 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากพัฒนาการสินไหมของกรมธรรม์ที่มีอัตราความเสียหายสูงกว่าอุตสาหกรรมใกล้จะครบ (กรณีที่มีการเรียกร้องแล้ว) ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวมลดลงจาก 96.6 ล้านบาท เป็น 87.7 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทฯ ได้รับรู้ผลแตกต่างชั่วคราวทางภาษี และผลประโยชน์ทางภาษีอื่นเป็นรายได้ภาษีเงินได้จำนวน 130.5 ล้านบาท ในงบกำไรขาดทุนสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 เนื่องจากบริษัทฯ มี Roadmap ในการเพิ่มทุนตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น รวมถึงนโยบายการขยายงานตามแผนธุรกิจที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตที่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 เรื่องการบัญชีภาษีเงินได้รอตัดบัญชี