มิติหุ้น-GUNKUL โชว์กำไรไตรมาส 2/62 โตระเบิด 4,427.84 % เหตุรายได้ทุกธุรกิจทะลักกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมส่งสัญญาณครึ่งปีหลังสดใส ลุยประมูลงาน EPC กว่า 5 พันล้านบาท คาดได้งานเข้าพอร์ต 50% แถมรับทรัพย์ ‘โซลาร์ฟาร์ม-ลม’ต่อเนื่อง ซุ่มเทกโอเวอร์โรงไฟฟ้าเวียดนาม-มาเลเซีย-ไต้หวัน ชี้ทั้งปี 62 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% หรือ 8 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL โดย “นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ประธานกรรมการบริหาร เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง คาดจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น จากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ
ประมูลงานEPCกว่า5พันล.
ทั้งนี้บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ โดยเฉพาะงานจากภาครัฐ เช่น โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เป็นต้น ซึ่งหากได้งานจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ประมาณ 7,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปี 62 จะเติบโตโดดเด่น หรือรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 30% แตะที่ระดับ 8,000 ล้านบาท
ล่าสุด GUNKUL แจ้งผลประกอบการงวด 6 เดือนแรก (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.62) ส่วนที่เป็นของบริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 661.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,427.84 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.62 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 3,004.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,840.87 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายเท่ากับ 679.15 ล้านบาท ,รายได้จากการขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเท่ากับ 1,913.50 ล้านบาท และ รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างและให้บริการเท่ากับ 373.40 ล้านบาท
ด้าน “นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” กรรมการผู้จัดการ เผยถึง “ธุรกิจงานรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม หรือ EPC” ว่า ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ๆ มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานอย่างน้อย 50% โดยบริษัทตั้งเป้าในปีนี้จะมี Backlog แตะ 1 หมื่นล้านบาท
ซุ่มเทกโรงไฟฟ้าตปท.
ด้าน “ธุรกิจพลังงาน” ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโครงการโซลาฟาร์มในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตราว 100 – 150 MW คาดหวังจะได้อย่างน้อย 40-50 MW ซึ่งจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/62 นี้ รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าในประเทศมาเลเซียร่วมกับพันธมิตรจำนวน 3 โครงการ รวม 160 MW ซึ่งจะเปิดประมูลในเดือน ส.ค.นี้ และสนใจลงทุนในประเทศไต้หวันขนาด 140 MW ด้วย
สำหรับความคืบหน้าการพัฒนาโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการ ขนาด 130 MW คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,260 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ลงทุนไปแล้ว 1,400 ล้านบาท คาดจะ CODได้ในปี 66 ล่าสุดสิ้นไตรมาส 2/62 มีกำลังการผลิตรวม 380 MW และมีโครงการโซลารูฟท็อปที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 30 MW คาดว่าจะ COD ได้ในช่วง 4 – 5 เดือนข้างหน้า
