CHOW มั่นใจปี 63 กลับมาโชว์ฟอร์มสวย-ยอมรับช่วงพลิกโฉมธุรกิจเหล็กฉุดผลงานวูบ                                                       

97

   

นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้  จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW  เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2563 ว่า มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากปี 2562  ได้อย่างชัดเจน หลังจากกระบวนการปรับปรุงโรงงานผลิตเหล็กเฟสที่สองที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงเพื่อรองรับการรับจ้างผลิตเหล็กแท่งยาวจากผู้ประกอบการรายใหญ่จะแล้วเสร็จลงในไตรมาสที่ 3/2562 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถผลิตได้เต็มประสิทธิภาพด้วยต้นทุนที่ลดลงทันทีในไตรมาสที่ 4/2562  ซึ่งจะสะท้อนให้ธุรกิจเหล็กพลิกกลับมามีกำไร จากการรับจ้างผลิตที่ช่วยลดความเสี่ยงจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ทั้งราคาเหล็กและการแข่งขันในตลาด

“ปัจจุบันCHOW อยู่ระหว่างการปรับปรุงโรงงานการผลิตเฟสสองเพื่อรองรับการรับจ้างผลิตเหล็กแท่งยาวให้กับลูกค้ารายใหญ่ที่มีคำสั่งซื้อมากกว่าปีละ 400,000 ตัน ซึ่งยอมรับว่าช่วงการปรับปรุงโรงงานจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นฉุดให้ผลประกอบการต่ำลงอย่างชัดเจน แต่สถานการณ์ดังกล่าวกำลังจะผ่านพ้นไป โดยปัจจุบันการปรับปรุงโรงงานการผลิตได้คืบหน้าไปแล้วกว่า 70%  โดยมีกำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 นี้ ซึ่งจะทำให้โรงงานการผลิตหลังปรับปรุงใหม่จะสามารถผลิตเหล็กแท่งยาวได้ในต้นทุนที่ลดลง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสทัยขึ้นและสามารถผลิตเหล็กในเกรดที่มีคุณภาพสูงขึ้น สะท้อนให้ตัวเลขกำไรในธุรกิจเหล็กปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเริ่มเดินเครื่องผลิตเหล็กต้นน้ำเต็มกำลังตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2552 เป็นต้นไป” นายศุภชัยกล่าว

ส่วนธุรกิจพลังงาน ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในและต่างประเทศยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยผลประกอบการของธุรกิจพลังงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 ธุรกิจพลังงานมีกําไรสุทธิ 119.1 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศจากช่วงฤดูหนาวในช่วงไตรมาสที่ 1 และเป็นฤดูร้อนในไตรมาสที่ 2

นอกจากนี้บริษัทมีรายได้จากการขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จํานวน 5 โครงการ แบ่งเป็น 4 โครงการในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 และ อีก 1 โครงการในไตรมาสที่ 2 ให้แก่กองทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผลให้มีกำไรจากการขายโครงการ 90.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์การขายโครงการเพื่อสร้างผลกำไรให้สูงขึ้น โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าที่จําหน่ายเชิงพาณิชย์รวม 59.92 เมกะวัตต์ดีซีประกอบด้วย 6.63 เมกะวัตต์ดีซีในประเทศไทย และ 53.29 เมกะวัตต์ดีซีในญี่ปุ่น และในสิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2562 บริษัทฯ มีโครงการไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างในประเทศญี่ปุ่นกำลังการผลิตรวม 22.3 เมกะวัตต์ดีซี ซึ่งคาดว่าโครงการที่มีกำลังการผลิต 7.2 เมกะวัตต์ดีซี จะสร้างแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปี 2562 นี้