นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า การเติบโตของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคล ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,599 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากไม่นับรวมการหักการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ จะมีกำไรสุทธิ 1,675 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
“การเปิดศูนย์นวัตกรรมโอสถสภา ซึ่งมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีการผลิตเครื่องดื่ม ด้วยเงินลงทุน 46 ล้านบาทเมื่อเร็วๆ นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบที่ปลอดภัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภค ช่วยให้สามารถพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์และสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี สร้างการเติบโตต่อธุรกิจทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลของโอสถสภาอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสที่ผ่านมา”นายเพชร กล่าว
ทั้งนี้จากการรุกทำตลาดและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง
นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม บริษัท โอสถสภา เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ. โอสถสภา ได้ลงนามเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอเชีย เวนดิ้ง แมชชีน โอเปอร์เรชั่น จำกัด(AOC) ซึ่งประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม อาหาร และสินค้าอื่น ๆ ผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ คิดเป็นร้อยละ 51 ของหุ้นสามัญที่จดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมดของ AOC เพื่อเพิ่มช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ผ่านช่องทางเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และบริษัทฯ ยังมีแผนการออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่อีก 2-3 ตัว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากงวดผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน 2562) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 66 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามงบการเงินรวมสำหรับครึ่งปีแรกของบริษัท หลังหักทุนสำรองตามกฎหมาย โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2562 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 13 กันยายน 2562