ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP โดย “นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/62 มีกำไรจากการดำเนินงานทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะ 193.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนการดำเนินที่แท้จริงว่าบริษัทมีการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
ส่วนกำไรสุทธิก็ขยายตัวได้ในระดับที่ดีเช่นกันอยู่ที่ 160.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 152.8 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 301.4 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรจากการดำเนินงาน 323.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 284.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 259.3 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 716.9 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 37% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 523.8 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตได้ดี เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/62 เป็นฤดูกาลที่ดีสุดของธุรกิจ Solar Farm แสงแดดมีคุณภาพที่ดี ทั้งจากโรงไฟฟ้าในประเทศไทยและญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น จำหน่ายได้มากขึ้นอีกด้วย จึงสนับสนุนให้กำไรจากการดำเนินงานเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งได้มีการการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิต 49.6 MW ตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน SSP ได้รับรู้รายได้จากการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโครงการใหม่ได้เต็มที่ ทั้งจาก โครงการฮิดะกะ โครงการโซเอ็น โครงการโซลาร์ อผศ. และโครงการโซลาร์รูฟท็อป เป็นต้น
“ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ SSP มีกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 140 MW หลังจาก COD โครงการ Binh Nguyen Solar ที่เวียดนาม และคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้กำลังการผลิตติดตั้งจะเพิ่มเป็น 157 MW โดยเพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่มองโกเลีย มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16.4 MW ซึ่งได้ COD ไปแล้วเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีแรกสามารถทำได้ดีกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้” นายวรุตม์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในมองโกเลียได้เพิ่มขึ้น และโครงการดังกล่าว จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปี 62 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30-40%
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการขยายการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 MW จากปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ ซึ่งในปี 2563 จะมีกำลังการผลิตที่ 196 MW จากสิ้นปี 2562 ที่มี 157 MW
www.mitihoon.com
