นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า จากความเข้าใจและความพร้อมในการปรับแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับทุกสภาวะการณ์และสภาวะเศรษฐกิจมาโดยตลอด ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรกได้กว่า 10,924 ล้านบาท ซึ่งนับว่าใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยรายได้หลักมาจากการโอนโครงการแนวราบถึง 82% และโครงการคอนโดมิเนียมอีก 18%
ทั้งนี้ จากการตอบรับโอนที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกนี้ช่วยตอกย้ำความต้องที่อยู่อาศัยในการซื้อเพื่ออยู่จริง ทั้งยังส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 689 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการบริหารธุรกิจและบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีกถึง 2,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท
“ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Presale Backlog) กว่า 47,000 ล้านบาท ทั้งนี้จากการที่ลูกค้าตอบรับโอนที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ในปีนี้ไปแล้วถึง 70% จากเป้ารายได้จากการขาย 22,000 ล้านบาทในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งนับเป็นพรีเซลล์ แบ็คล็อกที่สามารถ Secure เป้ารายได้ที่สูงมาก ดังนั้นจึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 30% บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้
ทั้งนี้บริษัทยังได้เตรียมส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ให้แก่ลูกค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวมอีก 9 โครงการ อาทิ ทากะ เฮาส์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์, เดอะ เบส เพชรเกษม, เดอะ เบส สุขุมวิท 50, เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค, ลา กาซิตา หัวหิน และ ดีคอนโด หาดใหญ่ ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จะทยอยสร้างเสร็จและส่งมอบให้กับลูกค้าตามเฟสต่างๆ โดยจะมีการจัดกิจกรรมโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อต้อนรับสมาชิกของครอบครัวแสนสิริ แฟมิลี่ ที่จะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้จะทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการได้ ในเป้าหมายยอดขาย 30,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดโอน 32,000 ล้านบาท” นายวันจักร์ กล่าว