ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC ดำเนินธุรกิจปิโตรเลียม ธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจท่าเรือและถังเก็บผลิตภัณฑ์ และธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สิน โดยนายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับแผนลงทุนระยะยาวในโครงการผลิตอะโรเมติกส์ (MAR: Maximum Aromatics Project) กำลังผลิตพาราไซลีน 1-1.3 ล้านตันต่อปี และเบนซีน 3-5 แสนตันต่อปี ประมาณการลงทุนมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) จากการพิจารณาอย่างรอบคอบเรื่องผลตอบแทนการลงทุน ส่งผลให้โครงการเลื่อนออกไปจากแผนเดิมที่จะแล้วเสร็จในปี 66 ไปเป็นปี 67 ซึ่งไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมโครงการมากนัก เนื่องจากในปีที่โครงการแล้วเสร็จภาวะตลาดและประมาณการส่วนต่างราคาพาราไซลีนยังมีแนวโน้มที่ดีอยู่
สำหรับการขยายโอกาสส่งออกตามทิศทางของตลาดโลก ปัจจุบัน IRPC สามารถจำหน่ายน้ำมันเตากำมะถันต่ำ 15,000 ตัน เป็นรายแรกของประเทศไทย ก่อนปี 63 นโยบายขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันกำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใชัตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เนื่องจากบริษัทเป็นโรงกลั่นเดียวในประเทศที่มีหน่วยกำจัดกำมะถันในเรสซิดิว ที่พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเดินเรือสมุทร
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เน้นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือ High Value Added Products (HVA) ควบคู่ไปกับการดำเนินการตามแผน IRPC 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ GDP เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน รวมถึงขยายส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนให้มากขึ้น
นอกจากนี้ มีการขยายการลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ชภายใต้แพลตฟอร์ม PLASTKET.COM ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ถือหุ้น 55% กับ บริษัท Guangzhao Saiju Performance Polymer Ltd. ถือหุ้น 45% จากจีน โดยแพลตฟอร์มนี้จะจำหน่ายเม็ดพลาสติกตากทุกแบนด์ ไม่จำกัดเฉพาะสินค้าของ IRPC และในกลุ่ม ปตท. เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตพลาสติก SME ทั่วประเทศเข้ามานำเสนอ จำหน่ายสินค้าได้อย่างปลอดภัย