มิติหุ้น-EPG มั่นใจผลงานไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ก.ย.62) โตฉลุย รับอานิสงส์ต้นทุนราคาวัตถุดิบเม็ดพลาสติกลดลง 10-20% หนุนมาร์จิ้นพุ่ง 28-30% แถมทุกธุรกิจไปได้สวย โกยออเดอร์ใหม่เข้าพอร์ตเพียบ แย้มช่วงไฮซีซั่นท่องเที่ยวหนุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก EPP ฟื้นตัวแรง โบรกแขวนป้าย “หุ้นเทิร์นอะราวด์” ชี้เป้า 7.50บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป หรือ EPG ทำธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) มีการลงทุนหลักในธุรกิจแปรรูปพลาสติก โดย “นายเฉลียว วิทูรปกรณ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 2/63 (ก.ค.-ก.ย.62) จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/63 เพราะทุกธุรกิจเติบโตได้ดี โดย “กลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อนและเย็นภายใต้แบรนด์ Aeroflex” และ “ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeoroklas” มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วน “ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับเครื่องดื่มและอาหาร ภายใต้แบรนด์ “EPP”” จะเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาส 3-4/63 เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นเทศกาลท่องเที่ยวทำให้ออเดอร์เข้ามาสูงขึ้น
เด้งรับราคาวัตถุดิบดิ่ง20%
ส่วนธุรกิจในต่างประเทศก็เติบโตดีขึ้น โดยทั้งปี 62/63 (เม.ย.62-มี.ค.63) มั่นใจรายได้จะเติบโตได้ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นแตะ 28-30% จากปีก่อนที่ 27-28% เพราะได้รับอานิสงส์ราคาวัตถุดิบประเภทเม็ดพลาสติกลดลง 10-20% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น
“บล.เอเชีย เวลท์” เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/63 จะเติบโตได้ดี เพราะ ได้รับผลดีจากต้นทุนราคาวัตถุดิบหรือเม็ดพลาสติกที่ปรับตัวลดลงราว 10-20% ส่งผลดีต่อการแข่งขัน โดยคาดว่าราคาเม็ดพลาสติกจะปรับตัวลงยาวนานถึง 2 ปี คาดทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปีเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจ Packaging
ด้าน “ธุรกิจ Aeroflex” คาดจะเดินเครื่องผลิตของโรงงานใหม่ (AEROFLEX 5) กำลังการผลิตราว 5,000 ตัน/ปี ได้ในช่วง ก.ย.-ต.ค.62 ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตได้ถึง 10% และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ 50% รวมถึงยังช่วยเพิ่มโอกาสการขยายตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นในสหรัฐฯ
ขณะที่“ธุรกิจ Aeorklas” มองว่าตลาดรถกระบะ SUV ยังมีการเติบโต โดยเฉพาะในทวีปยุโรป อังกฤษและออสเตรเลีย โดย EPG มุ่งเน้นการลงทุนในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ในทวีปแอฟริกา ซึ่งผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลก ซึ่งหลายรายเข้าไปตั้งฐานการผลิตในประเทศแอฟริกาใต้เพื่อเป็นประตูสู่ทวีปยุโรป
เดินเครื่องกำลังผลิตใหม่
ส่วนโรงงานใหม่ของ Aeorklas ที่ จ.ระยอง คาดว่าจะ COD ปลายปี 2562 และคาดว่าจะสามารถบันทึกเป็นรายได้เข้ามาในไตรมาส 4/62/63 (ม.ค.-มี.ค.63) เมื่อเดินเครื่องกำลังการผลิตของโรงงานใหม่ 100% คาดว่า Aeorklas จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 400-500 ล้านบาท/ปี หรือ 5% ของยอดขายรวม และ Aeroflex จะมีรายได้อยู่ที่ 800-1,000 ล้านบาท หรือ 10% ของยอดขายรวม
หุ้นเทิร์นอะราวด์-เป้า7.50บ.
ขณะที่ “ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก EPP” พลิกฟื้นกลับมาเติบโตต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น (ต.ค.62-มี.ค.63)โดยในปี 62 EPGจะทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ และ CLM อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ธุรกิจ EPG กำลัง Turnaround ทิศทางเม็ดพลาสติกในปี62-63 คาดว่าจะปรับตัวลงเป็นผลบวกต่อ EPG เนื่องจาก EPG ใช้เม็ดพลาสติก HDPE และ PP เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิต ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7.50 บาท