Krungsri Talks by โกลบอลมาร์เก็ตส์
โดย คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 และไม่เพียงแต่ในญี่ปุ่นซึ่งเราอาจคุ้นเคยกับนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางเพื่อต่อสู้กับเงินฝืด ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลหลายประเทศในยุโรปได้ลดลงต่ำกว่าระดับ 0% ยิ่งไปกว่าในญี่ปุ่น (กราฟด้านล่าง) โดย Yieldของพันธบัตรสวิตเซอร์แลนด์ติดลบทั้งเส้นไปจนถึงรุ่น 50 ปีเลยทีเดียว
ขณะที่สินเชื่อบ้านในเดนมาร์กคิดดอกเบี้ยติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สร้างความฮือฮาไม่น้อย ทั้งนี้ ในปัจจุบันคาดว่าพันธบัตรที่มี Yield ติดลบมีมูลค่าราว 13 ล้านล้านดอลลาร์หรือกว่า 20% ของพันธบัตรทั้งโลก แม้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯยังคงเป็นบวกแต่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีทำสถิติระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นระส่ำระสายอย่างหนักเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่ารุ่น 2 ปี (Inverted Yield Curve) เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ซึ่งมักเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ส่วนอัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังสหรัฐฯประเภทอายุ 3 เดือนอยู่เหนือพันธบัตรประเภท 10 ปีตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว
ภาวะ Inversion หรือเส้นอัตราผลตอบแทนแบบพลิกกลับซึ่ง Yield ลาดลงจากซ้ายไปขวาขณะที่อายุของพันธบัตรยาวขึ้น ส่งผลให้ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ดี ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลงแต่ได้ปฏิเสธความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยในสหรัฐฯ โดยอ้างถึงการจ้างงานและยอดค้าปลีกซึ่งยังคงแข็งแกร่ง สิ่งที่น่าสนใจในเวลานี้คือมุมมองของเฟดซึ่งได้ให้ความเห็นว่าภาวะ Inversion อาจสะท้อนผลของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง (ในมุมมองของเรา คือ ผลจากการที่ QE ดูดซับปริมาณพันธบัตรออกจากมือภาคเอกชน ไปสู่การถือครองของธนาคารกลาง และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำจากผลของเทคโนโลยีและสังคมสูงวัย เป็นต้น) และอาจไม่ใช่สัญญาณเตือนที่น่าวิตกเหมือนในอดีต บ่งชี้ว่าในการตัดสินใจดำเนินนโยบายนั้น เฟดอาจให้น้ำหนักน้อยลงต่อเส้นอัตราผลตอบแทนแบบพลิกกลับ
สำหรับภาวะ Inversion ครั้งล่าสุด ในช่วงปี 2549/50 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี อยู่เหนือ รุ่น 10 ปี กินเวลาราว 11 เดือน ขณะที่หากพิจารณาค่าเฉลี่ยในรอบ 50 ปี พบว่า Inversion จะเกิดก่อนภาวะเศรษฐกิจดถอยจะเริ่มขึ้น 18 เดือน โดยมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 50 ปีที่ Inverted Yield Curveส่งสัญญาณหลอกเกี่ยวกับแนวโน้ม Recession เราคาดว่าท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯกับจีน ความเสี่ยงด้านสงครามค่าเงิน เศรษฐกิจชะลอตัวในจีนและยุโรป รวมถึงทิศทางการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรแบบไร้ข้อตกลง หรือ No-deal Brexit ทั้งหมดนี้จะทำให้นักลงทุนมีความอดทนลดลงต่อหลายปัจจัยความไม่แน่นอน และแม้อัตราผลตอบแทนลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ภาคธุรกิจและครัวเรือนอาจยังลังเลที่จะใช้จ่ายหากขาดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ