ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮม รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยนายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 62 คาดเติบโตตามแผน และมั่นใจรายได้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ 4,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นเดือนมิ.ย.62 มูลค่าราว 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 – 4 ปีข้างหน้า และจากแผนการเปิดโครงการใหม่ๆ
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนขยายการลงทุนในครึ่งปีหลังโดยเตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ากว่า 12,500 ล้านบาท ทั้งแบบคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ ไฮไรส์ และทาวน์โฮม และล่าสุดเตรียมเปิดโครงการ The Vision Ladprao – Nawamin Phase II ในช่วงวันที่ 31 ส.ค.นี้
ในขณะที่โครงการ The Excel Ladprao – Sutthisan ที่เปิดตัวไปช่วงต้นเดือนส.ค.62 สามารถยอดขายแล้วกว่า 850 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 70% ของมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่าทุกโครงการที่เตรียมจะเปิดตัวในเร็วๆ จะได้ผลตอบรับที่ดีแบบนี้เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันบริษัทมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว – นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท, 2.โครงการ อิมเพรสชั่น ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และ 3.โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีสินค้าสร้างแล้วเสร็จที่พร้อมขายและโอนกรรมสิทธิ์ (Inventory) มูลค่ารวมประมาณ 201 ล้านบาท จากโครงการ The Excel Khukot และ Rise Rama 9
สำหรับแผนการขยายฐานไปยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ บริษัทเปิดตัวทีมบริหาร การตลาดและงานขายในต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการผ่านบริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด (Thai D) โดยจะเข้าไปขยายฐานในการดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบการเปิดสำนักงานขาย ในเซี่ยงไฮ้ และไทเป ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสขยายฐานกลุ่มลูกค้าชาวจีน อย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอันใกล้
ส่วนความคืบหน้าในการเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า จ.ชลบุรี โดยมีอายุสัญญาเช่า 29 ปี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างไปตั้งแต่ช่วงเดือนก.ค.62 ซึ่งคาดกว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 63 และจะเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลัง 63 โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 64 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าว เข้ามา 5,800 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญาเช่า ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%
www.mitihoon.com
