ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC ผู้ทำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต โดย “นายบูชา ศิริชุมแสง” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า KTC กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นใหม่จำนวน 4 บริษัท ใน 4 จังหวัดใหญ่ เพื่อประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับประเภท Pico Plus โดยเป็นการให้สินเชื่อแก่บุคคลธรรมดาที่มีภูมิลำเนา วงเงินไม่เกินรายละ 1 แสนบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินทุนเวียนของ KTC
ประกอบไปด้วย 1.บ.เคทีซี พิโก (ชลบุรี) , 2. บ.เคทีซี พิโก (ปทุมธานี) ,3. บ.เคทีซี พิโก (สมุทรปราการ) และ4.บ.เคทีซี พิโก (สมุทรสาคร) โดยสัดส่วนการถือหุ้นของทุกบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นั้น แบ่งเป็น KTC ถือหุ้น 75.0497% และ KTC ถือหุ้น 24.9500% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด
ด้าน“นายระเฑียร ศรีมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTC เผยว่า บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่นั้น คาดว่าจะใช้เวลา 18-24 เดือนจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามา ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 จะดีกว่าไตรมาส 2/62 และช่วงไตรมาส 4/62 จะทำสถิติสูงสุดแห่งปี จากการเร่งใช้งบการตลาดเพื่อให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 15% และ พอร์ตลูกหนี้เติบโต 10% ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี
ทั้งนี้มีแผนออกหุ้นกู้ในช่วงที่เหลือของปี โดยปัจจุบันบริษัทมีวงเงินคงเหลือ 25,790 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้บริษัทออกหุ้นกู้ไปแล้ววงเงินรวม 4,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อให้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนทั้งปี 62 มั่นใจกำไรสุทธิจะทำนิวไฮ หรือ เติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้าน บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” KTC ราคาเป้าหมาย 50 บาท เพราะมั่นใจว่า ผลงานช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยบริษัทยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 10% (ประมาณการของเราอยู่ที่ 7%) จากการทำการตลาดผ่านการซื้ออาหาร เครื่องดื่ม, ประกัน และท่องเที่ยว ในด้านของการตั้งสำรองคาดจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีวันหยุดน้อยกว่าช่วงครึ่งปีแรกทำให้การตามนี้ทำได้ดีกว่า รวมถึง IFRS9 สามารถลดสำรองลงได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/ 62 พร้อมกันนี้มองว่า PICO finance จะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการในอนาคต
www.mitihoon.com
