ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า นายรัฐพล ชื่นสมจิตต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า GULF มีแผนการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิตรวม 6,000 เมกะวัตต์ (MW) ในประเทศเวียดนาม โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 2563
นอกจากนี้บริษัทยังได้เจรจากับพันธมิตรจีนเพื่อร่วมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ เบื้องต้นบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วน 30-35% โดยจะชัดเจนในปี 2563 เช่นกันต
“ เรายังคงมีแผนเดินหน้าในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนการลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯนั้น บริษัทได้ชะลอออกไป เนื่องจากมองว่าโครงการดังกล่าวจะยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน” นายรัฐพลกล่าว
อย่างไรก็ดี GULF ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) 2 แห่ง กำลังการผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการ GSRC ตั้งอยู่ในอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำลังการผลิตรวม 2,500 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันการก่อสร้างดำเนินการคืบหน้าแล้ว 30-40% คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในช่วงปี 2564 -2565 และโครงการ GPD ที่ตั้งอยู่ใน จ.ระยอง กำลังการผลิต 2,500 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากู้เงินจากสถาบันทางการเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะ COD ได้ในปี 2566-2567
สำหรับอนาคตบริษัทยังได้ใช้นวัตกรรมทางการเงินเพื่อปรับโครงสร้างพร้อมกับลดต้นทุนทางดอกเบี้ยให้มีต้นทุนทางการเงินลดลงอีกราว 1-1.5% ส่วนรายได้ในปี 62 ยังคงมั่นใจทำได้ตามเป้าหมายแตะ 3 หมี่นล้านบาท สูงขึ้นกว่าปีก่อนที่ 2 หมื่นล้านบาท ตามการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่ COD กำลังการผลิตรวม 5,919 เมกะวัตต์
“ ผู้ถือหุ้น GULF จงไว้ใจในคุณภาพของ GULF จากแผนการขับเคลื่อนธุรกิจทั้งปัจจุบันและอนาคตยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า GULF ยังเป็นหุ้นที่มีอนาคตและแผนการขยายธุรกิจที่ดี” นายรัฐพลกล่าว