ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โดย “นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี” รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะจะเริ่มรับรู้รายได้ค่าโฆษณาจากการผลิตรายการภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC ที่ดำเนินงานภายใต้ “บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด”
ผนึกพันธมิตรตปท.
อีกทั้งจะทยอยรับรู้รายได้จากคอนเทนต์ที่รอส่งมอบ (Backlog)ที่มีอยู่ประมาณ 470 ล้านบาท และทยอยรับออเดอร์ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทจะเร่งทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ไปจำหน่ายในประเทศกลุ่ม CLMV มากขึ้น
รวมถึงเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ในตลาดต่างประเทศ ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรในประเทศเกาหลี ,ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้มากกว่า 30% ดังนั้นทั้งปี 62 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตทำนิวไฮไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
รุกตลาดคอนเทนต์เต็มสูบ
“นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN เผยว่า ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนรุกทำตลาดเพื่อจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ผ่านกลยุทธ์การตลาด ‘ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ จากการร่วมออกบูทและจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ที่นำไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งในปลายปีนี้ JKN มีแผนนำเสนอซีรี่ส์ละครไทย อีกกว่า 40 เรื่อง ในงาน MIPCOM 2019 ที่จัดขึ้นประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ด้านตลาดในประเทศ มั่นใจว่าจะเติบโตที่ดี เนื่องจากลูกค้ากลุ่มทีวีดิจิทัล มีแนวโน้มนำเงินมาลงทุนจัดซื้อคอนเทนต์แทนการผลิตรายการเอง เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับช่องเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากการผลิตรายการภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC ทั้งนี้บริษัทมีแผนเพิ่มคอนเทนต์จากแบรนด์ CNBC เพิ่มเติมอีก 5 รายการ เพื่อออกอากาศผ่านช่องทีวีดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 5 ช่องทรูฟอร์ยู ช่องอัมรินทร์ทีวี เป็นต้น
โชว์กำไร285ล.-ชี้เป้า12.40บ.
ด้าน “บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เผยว่า ปี 62 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตทำนิวไฮที่ 285 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน หนุนโดย 1. รายได้ทั้งในและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่องที่ 1.55 พันล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน , การเพิ่มฐานลูกค้าช่องทีวีดิจิทัล เพราะช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะสามารถปิดสัญญาช่อง MONO และ PPTV ได้ อีกทั้งยังมีการขายลิขสิทธิ์ซีรีย์อินเดียให้ TVD
พร้อมกันนี้รับรู้รายได้จาก CNBC อยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้จากต่างประเทศในปีนี้จะอยู่ที่ 450 ล้านบาท เติบโต 17.5% จากปีก่อน หรือคิดเป็น 28% ของรายได้ทั้งหมด , Gross profit margin ขยายตัวอยู่ที่ 40.3% จาก 37.4% ในปีก่อน ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 12.40 บาท
www.mitihoon.com