คอลัมน์ KTBST Build Your Net Worth
สัปดาห์ทำการแรกของเดือนกันยายน 2562 เปิดตลาดทำการด้วยความผันผวนที่ยังมีให้เห็นอยู่ เพราะการเริ่มต้นวันแรกของเดือนนี้ คือ วันที่การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับจีนมีผลบังคับใช้ในทันที ในวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับข่าวการเจรจากันในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งตลาดก็คาดหวังว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเชิงบวก อย่างไรก็ตามผลจากการขึ้นภาษีต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาจนถึงครั้งล่าสุดนี้ แม้ตลาดเงินตลาดทุนจะปรับตัวรับข่าวในเชิงลบมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงนั้น จะสะท้อนออกมาจากตัวเลขเศรษฐกิจนับตั้งแต่นี้ไปและหากสถานการณ์ของสงครามการค้ายังกินเวลาออกไปโดยที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจะลดลงไปต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นไทยในวันทำการแรกของเดือนกันยายน จึงปิดตลาดในแดนลบเล็กไปน้อย ที่ระดับ 1,654.11 จุด ลบ -0.81 จุด (0.05%) โดย KTBST ประเมินว่าในช่วงสัปดาห์นี้ดัชนียังสามารถยืนเหนือ 1,630 จุดได้ แต่การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังปรับตัวขึ้นสะท้อนว่า ความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าอาจไม่ราบรื่นก็เป็นได้ จากการที่จีนเตรียมยื่นฟ้ององค์กรการค้าโลก (WTO) กรณีสหรัฐฯเก็บภาษีสินค้าจีนอีก 3 แสนล้านเหรียญฯ รวมทั้งเงินหยวนที่อ่อนค่าลง 4% มาแตะที่ระดับ 7.17 หยวนต่อดอลลาร์ เป็นสัญญาณที่ตลาดกังวลว่าจีนอาจกำลังตอบโต้สหรัฐฯอยู่ในเวลานี้ ขณะเดียวกันการชุมนุมในฮ่องกงยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาดูต่อไป แต่ยังไม่ส่งผลอย่างมีนัยต่อตลาดหุ้นไทยในเวลานี้
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ซึ่งจับตาดูรายงานตัวเลข จีดีพี ไตรมาส 2 ในวันศุกร์นี้ รวมถึงเรื่อง Brexit ของอังกฤษ ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปและอังกฤษอย่างไรบ้าง ส่วนราคาน้ำมันก็มีข่าวในเชิงลบจากการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ที่เพิ่มขึ้น 2 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือน ส.ค.
โดยภาพรวม สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน การลงทุนยังคงต้องเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดย KTBST แนะนำ หุ้นที่มีจ่ายปันผลสูง (High Dividend) และหุ้นที่ยังมีการเติบโตดี เช่น SCB , SCC, SPALI , BDMS , TPIPP พร้อมกันนี้ยังประเมินว่า SET Index ยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,630 จุดได้ ด้วยแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจที่อาจเกิดถดถอยและการประท้วงในฮ่องกงที่ยังไม่มีท่าทีจะยุติแต่กลับเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นนั้น ทำให้ KTBST แนะนำนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ โดยให้ทยอยลงทุนเมื่อเห็นราคาทองคำมีการพักตัว รวมไปถึงสินทรัพย์อย่างกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือรีท และตราสารหนี้ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคที่อันดับความน่าเชื่อถือต่ำในระดับที่สามารถลงทุนได้หรือ Investment grade ขึ้นไป
โดยคุณชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)