“พิชญ์ โพธารามิก” ถูก ก.ล.ต.ลงโทษทางแพ่งอินไซต์หุ้น JTS มูลค่า 59.10 ลบ.

840

มิติหุ้น-สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในระหว่างวันที่ 29 กันยายน 2559 ถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2559 นายพิชญ์ได้ร่วมกับนายเกริกไกรซื้อหุ้น JTS* (โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายเกริกไกร) ก่อนที่จะมีการเปิดเผยงบการเงินไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2559 ที่มีผลกำไร 21.39 ล้านบาท พลิกกลับจากที่มีผลขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ปี 2557 และเป็นข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อราคาหลักทรัพย์

“พิชญ์-เกริกไกร” อินไซต์หุ้น JTS

โดยที่ผลกำไรของ JTS ดังกล่าว เกิดจากการที่ JTS ได้รับการว่าจ้างงานจากบริษัท ทริปเปิล ที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB)** ซึ่งนายพิชญ์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ และนายพิชญ์ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการของ JAS ที่ให้นโยบายในการว่าจ้างงานภายในกลุ่มด้วย นายพิชญ์จึงอยู่ในฐานะที่ล่วงรู้ข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อราคาหลักทรัพย์ของ JTS การกระทำข้างต้นของนายพิชญ์และนายเกริกไกร จึงเป็นการซื้อหุ้น JTS โดยใช้ข้อมูลภายใน อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย โดยกำหนดให้ (1) นายพิชญ์ ชำระค่าปรับทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 32,650,173.75 บาท และชดใช้เงินในจำนวนที่เท่ากับผลประโยชน์ที่พึงได้รับเป็นเงินจำนวน 26,120,139 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 58,770,312.75 บาท และ(2) นายเกริกไกร ชำระค่าปรับทางแพ่งเป็นเงินจำนวน 333,333.33 บาท ทั้งนี้ หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชดใช้ผลประโยชน์ที่ได้รับและชำระเงินค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด

“พิชญ์ โพธารมิก” ขาดคุณสมบัติเป็นกรรมการและผุู้บริหาร บจ.

อนึ่ง การที่ ค.ม.พ. กำหนดให้ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดจะเป็นเหตุให้เข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.*** ซึ่งจะมีผลให้นายพิชญ์ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทดังกล่าว เมื่อ ก.ล.ต. มีหนังสือแจ้งการมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการดำเนินการต่อไป ส่วนกรณีของนายเกริกไกร ก.ล.ต. จะพิจารณาเมื่อบุคคลดังกล่าวจะเข้ามาเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน

ล่าสุด “พิชญ์ โพธารามิก ” แจ้งลาออกจากตำแหน่งกรรมการและผู้บริหาร JAS

ล่าสุด บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS) แจ้งว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจาก ก.ล.ต. เกี่ยวกับการให้พ้นจากตำแหน่งของกรรมการและผู้บริหารข้างต้น แต่ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งของนายพิชญ์ โพธารามิก ซึ่งแจ้งว่ายังไม่ได้รับทราบในรายละเอียดจาก ก.ล.ต. ในเรื่องดังกล่าวแต่เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี จึงขอลาออกจากตำแหน่งข้างต้นโดยให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดประชุมคณะกรรมการเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทนนายพิชญ์ โพธารามิก ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการตามแผนธุรกิจที่วางไว้แต่อย่างใด

www.mitihoon.com