PRIME รุกจ่ายไฟกัมพูชา60MW ลดทุนล้างขาดทุนสะสม (23/09/62)

220

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ หรือ PRIME โดย “นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์”กรรมการผู้จัดการ เผยว่า บริษัทอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้ “บจ.ไพร์ม โรดอัลเทอร์เนทีฟ หรือ PRA” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.8% เข้าลงทุนใน “โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาด 60 MW” ในจ.กำปงชนัง ประเทศกัมพูชา รวมถึงเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว, สัญญาเช่าพื้นที่โครงการและสัญญาพัฒนาโครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,525.96 ล้านบาท (49.95 ล้านเหรียญสหรัฐ)

คาดเซ็นสัญญาQ4/62นี้

โดยโครงการดังกล่าว คาดว่าจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการได้ภายในไตรมาส 4/62 นี้ ภายหลังที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พ.ย.62  และภายหลังจากนั้น PRA จะจัดหาใบอนุญาตตามเงื่อนการพัฒนาโครงการ และเปิดประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้าง พร้อมกันนี้จะสามารถทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อก่อสร้างโครงการในรูปแบบ Project Finance ได้ภายในไตรมาส 2/63 และจะเริ่มก่อสร้างทันที คาดจะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 4/64

“ บริษัทจะทำ Project Finance กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง โดยเงินกู้จะอยู่ที่ 1,068.17 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด ส่วนอีก 30% เป็นเงินทุนหมุนเวียน” นายสมประสงค์ กล่าว

โชว์ IRR ประมาณ 8.3%

โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน (Project IRR) ประมาณร้อยละ 8.3% ตลอดระยะเวลา 20 ปีของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว และมีระยะเวลาคืนทุน 9.19 ปี โดยโครงการนี้มีความสำคัญต่อบริษัทในการเปิดตลาดการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศกัมพูชา เพราะเป็นประเทศที่มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งที่เกิดเหตุไฟฟ้าดับอยู่บ่อยครั้ง

ลดทุนล้างขาดทุนสะสม

นายสมประสงค์ กล่าวเสริมว่า บริษัทยังเตรียมเสนอเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (ราคาพาร์) จากเดิมหุ้นละ1 บาท เป็นหุ้นละ 2 บาท และเปลี่ยนหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ชำระแล้ว จำนวน 25,514 ล้านหุ้น เป็น 12,757 ล้านหุ้น โดยใช้วิธีการคำนวน คือ อัตราหุ้นเดิม 2 หุ้นเป็น1 หุ้นใหม่

อีกทั้งอนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 19,135 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนจำนวน 25,514.28 ล้านบาท เป็น 6,378.57 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 17,017.94 ล้านบาท เป็น 4,254.48 ล้านบาท ตามลำดับ โดยการลดพาร์จากเดิมหุ้นละ 2 บาท เป็น 0.50 บาท เพื่อชดเชยขาดทุนสะสม 2,165.61 ล้านบาท และ ส่วนต่ำมูลค่าหุ้น 10,863.48 ล้านบาท ทำให้คงเหลือผลขาดทุนสะสมเพียง 265.64 ล้านบาท

www.mitihoon.com