มิติหุ้น-PRM ชี้ไตรมาส 3/62 ฟันกำไรแรงเกิน 300 ล้านบาท ทะลุ 50% รับมาตราการ IMO 2020 หนุน utilization rate เต็ม 100% แถมมีโอกาสปรับขึ้นค่าเช่าเรือในอนาคต รับทรัพย์ซื้อหุ้น Big Sea อีก 10% เป็น 80% ทุ่ม 6 พันล้านบาท ซื้อกองเรือเพิ่ม หนุนทั้งปี 62 กำไรทำนิวไฮ 1.06 พันล้านบาท ชี้เป้า 13.20 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM ให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูป และ ปิโตรเคมีเหลวทางเรือให้กับลูกค้าตามความต้องการอย่างครบวงจร โดย “นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์” ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี เผยว่า ปี 62 ตั้งงบลงทุนไว้ 6,000 ล้านบาท ล่าสุดใช้ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท เพื่อขยายกองเรือใหม่รองรับความต้องการที่สูงขึ้น
ส่วนทั้งปี 62 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโต 10-15% จากปีก่อน เพราะ “ธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บ FSU”ในช่วงไตรมาส 3/62 จะซื้อเรือเพิ่มเข้ามา 2 ลำ และจะทยอยให้บริการครบทุกลำในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันมีกองเรือขนส่งภายในประเทศรวม 32 ลำ พร้อมกันนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนทั้งกำไรและรายได้ คือ การถือหุ้นใน Big Sea เพิ่มเป็น 80% จากเดิม 70% และ คาดว่ากลางปี 64 จะเข้าถือหุ้นจะครบ 100%
โชว์กำไรQ3แรง300ล.
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/62 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 300 ล้านบาท เติบโต 51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะมีเรือให้บริการเพิ่มใหม่ถึง 3 ลำ เป็น 44 ลำ จากสิ้นปี 61 ที่มีเรือ 36 ลำ ได้แก่ เรือ Domestic tanker 1 ลำ และ เรือ FSU 2 ลำ ซึ่งทั้งหมดล้วนมีสัญญารองรับสร้างรายได้ทันที , เรือ FSU 2 ลำนี้ ให้บริการกักเก็บและผสมน้ำมันสนับสนุนผู้ใช้น้ำมันกำมะถันต่ำตามกฏเกณฑ์ IMO2020 และให้มาร์จิ้นที่สูงต่อ PRM
อีกทั้งจากกองเรือใหม่ก็จะทำให้กองเรือ FSU มีส่วนแบ่งรายได้มากขึ้น จากไตรมาส 2/62 ที่ 33% เป็นราว 40% นั่นจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมจะเร่งขึ้นได้อีกจาก 31.7% ในไตรมาส 2/62 และ 29.0% ในไตรมาส 1/62 เนื่องจากเรือกลุ่มนี้ให้มาร์จิ้นสูงสุดแก่บริษัท
ทั้งนี้ PRM เพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน Big Sea อีก 10% เป็น 80% เมื่อ13 ส.ค. ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดจะเพิ่มกำไรให้ PRM ประมาณ 16-20 ล้านบาท/ ปี หรือ 2% ของฐานกำไร , หน่วยธุรกิจอื่น แข็งแรง อัตราใช้เรือระดับ 90-100% ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 1,060 ล้านบาท เติบโต 49% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 13.20 บาท
ขานรับ IMO2020
“บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เผยว่า ปี 62-63 ผลประกอบการจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากความต้องการใช้บริการเพื่อกักเก็บน้ำมันเตากำมะถันต่ำ จากกฎ IMO2020 ส่งผลให้เรือ FSU จะมีอัตรา utilization rate เกือบเต็ม 100% ต่อเนื่องตลอดจนถึงปลายปี 63 ซึ่งมีสัญญาเช่าเรือระยะยาวรองรับไว้แล้ว ขณะที่ supply เรือ FSU ใหม่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้จำกัด ส่งผลให้ PRM มีโอกาสปรับขึ้นค่าเช่าเรือในอนาคตได้อีก ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 10.50 บาท