ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK โดยนายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน KBANK เปิดเผยว่า ในปลายเดือน ก.ย.นี้ ธนาคารจะมีการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทย จากเดิมที่คาดเติบโต 3.1% และตัวเลขการส่งออกที่ยังหดตัว แม้การบริโภคในประเทศจะดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่เป็นเพียงการประคองระยะสั้น เพราะปัจจัยกดดันเศรษฐกิจยังเป็นเรื่องของการส่งออกและการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ มีความเห็นว่าควรพิจารณาขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่องทางอื่น เช่น พิจารณาผ่อนคลายนโยบายทางการคลังแทนการใช้มาตรการการเงินที่ค่อนข้างจะขยับได้ยากแล้ว อาทิ มาตรการด้านภาษีหลายๆ ตัว ที่สามารถช่วยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศได้ เพราะปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะกรณีของสงครามการค้ายังยืดเยื้อและมีความไม่แน่นอนสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ขณะที่การลดดอกเบี้ยครั้งที่แล้วไม่ได้มีผลต่อค่าเงินบาทให้อ่อนลง และมาตรการสกัดการถือบอนด์ก็ส่งผลให้ยอดการถือครองพันธบัตรระยะสั้นของต่างชาติลดลงเหลือ 6.1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 1.7 แสนล้านบาท แต่ไปเพิ่มในส่วนของพันธบัตรระยะยาวมาเป็นเกือบ 9 แสนล้านบาท ทำให้เงินบาทยังแข็งค่าอยู่ ขณะที่ดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรระยะยาวอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้วประมาณ 1.48% ซึ่งหากยังใช้การลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกก็อาจจะยิ่งเป็นการหนุนให้มีการเข้าถือพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้น เพราะการลดดอกเบี้ยก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้นัก
อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มค่าเงินบาทจะยังแข็งค่าอยู่ แต่ไม่น่าจะหลุดต่ำกว่า 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยธนาคารยังเป้าหมายค่าเงินบาทที่ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
www.mitihoon.com