ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี หรือ PSTC โดย “นายภาณุ ศีติสาร” ประธานกรรมการบริษัท เผยว่า บริษัท Biggas ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ลงนามสัญญาซื้อ/ขายหุ้นและจองซื้อหุ้นของ “บ. ไทย ไปป์ ไลน์เน็ตเวิร์คหรือ TPN” จำนวน 44.6% มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ให้กับ “บ.ผลิตไฟฟ้าหรือ EGCO Group” เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 62 และได้ทำการลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ก.ย.62 ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของความร่วมมือกับทาง EGCOGroup ใน “โครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” จากจ.สระบุรีไปยังจ.ขอนแก่น ระยะทางทั้งสิ้น 342.8กม. มูลค่าการลงทุนกว่า 9,000 ล้านบาทของบริษัทTPN
โดยปัจจุบันนี้การก่อสร้างได้เริ่มต้นไปพอสมควรแล้วนับจากที่ทางบริษัท TPN ได้รับอนุมัติ EIA โดยกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปลายไตรมาสที่ 2/ 64 โดยการร่วมมือกันกับทาง EGCO Group ในครั้งนี้จะเสริมสร้างความแข่งแกร่งในการบริหารโครงการ และเพิ่มโอกาสในการต่อยอดโครงการอื่นในอนาคต
ทั้งนี้ภายใต้บริษัทร่วม TPN ยังมีโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษา อาทิเช่น การต่อเชื่อมท่อขนส่งน้ำมันจากขอนแก่น ไปยังประเทศลาว ทั้งนี้ทางบริษัท PSTC จะแจ้งข่าวในความคืบหน้าด้านต่างๆ ผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
พร้อมกันนี้ล่าสุด PSTC ได้เข้าถือหุ้น 100%ในบริษัท Biggas หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติเข้าทำรายการ swap หุ้นที่มูลค่า 0.86 บาทไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย.62 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยการขายหุ้น TPN ในครั้งนี้ ทางบริษัท Biggas จะยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท TPN มากกว่า 51% แต่เนื่องด้วยการเป็น Joint control ทางบริษัทได้ปรึกษากับผู้สอบบัญชีตามหลักการบัญชีแล้ว PSTC จะไม่สามารถรับรู้ TPN ในฐานะบริษัทย่อยได้ต่อไปจะรับรู้ได้เฉพาะกำไรเหมือนบริษัทร่วม ในส่วนผลตอบแทนจากการขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้คำนวณเพราะต้องรอให้ทางผู้สอบบัญชีเป็นผู้สรุปออกมาในสิ้นงวดไตรมาสที่ 3/62 อีกครั้งหนึ่ง หลังจากการควบรวมแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ตามที่ได้แจ้งในการแถลงข่าว ไปก่อนหน้านี้ บริษัท PSTC จะแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มคือ
- ธุรกิจด้านไฟฟ้าและระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบจัดการบริหารพลังงาน
- ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบ PPA และ Private PPA
- ธุรกิจด้าน Oil and Gas
- ธุรกิจรับเหมา EPC ด้านพลังงานครบวงจร
ทั้งนี้ในส่วนธุรกิจ EPC ด้านพลังงานครบวงจร ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมีงานในมือที่ได้รับแล้ว และกำลังจะได้รับอยู่ เกือบ 4,000 ล้านบาท บริษัทจะจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์ และจะแจ้งผ่านทางตลาดหลักทัพย์ให้ทราบต่อไปในอนาคต
โดยทั้งปี 62 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 20-25 % และจะก้าวกระโดดในปี 63 กว่า 30% จากงานในมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง PPA ที่กำลัง CODเพิ่มขึ้น และจากการที่บริษัทมีกระแสเงินสดที่ได้รับมาจากการขายหุ้น TPN ให้กับทาง EGCO Group ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนการดำเนินการของบริษัท และรายจ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงอีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย
www.mitihoon.com