มิติหุ้น- BCH ติดชาร์ตความแรง โบรกเกาะติดพื้นฐานมองแนวโน้มกำไรทำสถิติสูงสุดหลังปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม จากฐานลูกค้าที่ 8.7 แสนรายสูงสุดในกลุ่ม แถม WMC มีแผนเปิดบริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าจีนที่มีแนวโน้มเติบโตดี แนะ “ซื้อ” เคาะเป้าหมาย 21.80 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) BCH ราคาเป้าหมาย 21.80 บาท โดยมองว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2562 คาดกำไรปกติจะเติบโต 53% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 12% ช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 401 ล้านบาท จากทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคม เทียบไตรมาสก่อนหน้าเติบโตโดดเด่นจากปัจจัยฤดูกาล ซึ่งเป็น High season ของอุตสาหกรรม ซึ่งมีไข้ตามฤดูกาล และโรคระบาดเพิ่มขึ้น เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดรายได้เติบโต 11% ช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2,473 ล้านบาท
หลักๆมาจากธุรกิจประกันสังคม ที่มีการเติบโตตามฐานผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและคาดว่าจะมีการบันทึกรายได้คงค้างที่ได้รับจากประกันสังคมเข้ามาราว 60 – 80 ล้านบาท และไม่มีการบันทึกรายการตั้งสำรองประกันสังคมที่เป็นลบเหมือนไตรมาสก่อน ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้นตามผลของขนาดรายได้ที่เพิ่มขึ้น และโรงพยาบาล WMC ที่คนไข้กลับมาใช้บริการได้ตามปกติจาก ไตรมาสก่อนได้รับผลกระทบจากการย้ายศูนย์เบาหวาน จากชั้น 10 มาชั้น 1 และ บริษัทย่อย เกษมราษฎร์ รามคำแหงคาดจะถึงจุดคุ้มทุนที่ EBITDA ในไตรมาส 3/2562
ไตรมาส4/62ยังดีต่อ
อย่างไรก็ดีคาดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 ยังเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคม ซึ่งโรงพยาบาล WMC มีแผนจะเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าจีนที่มีแนวโน้มเติบโตดี เบื้องต้นเราคงประมาณการกำไรปกติปี 2562 เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 1,188 ล้านบาท
ปี 2563ขึ้นค่าหัวประกันสังคม
ทั้งนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อประเด็นที่ทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชน มีการยื่น ขอให้ทางสำนักงานประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว สำหรับงวดปี 2563 ราว 10% – 12% (ปรับเพิ่มค่าผู้ป่วยในใช้จ่ายสูง 15% ภาระเสี่ยง 15% ค่าร้องเรียนและการ จำหน่ายผู้ป่วย 10%) โดย BCH เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุด ด้วยฐานผู้ประกันตนที่มีอยู่ 8.7 แสนรายสูงสุดในกลุ่ม และสัดส่วนรายได้จากประกันสังคมที่ 35% ของรายได้รวม
โดยประเมิน การปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมทุก 1% จะมีผลต่อกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 2% และจากข้อมูลในอดีตในปี 2559 และ 2560 ที่มีการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคม พบว่ารายได้ประกันสังคมของ BCH เติบโต 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 16% ขณะที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นถึง 43% ช่วงเดียวกันปีก่อนและ 22% ตามลำดับ
อย่างไรก็ดีมองว่าราคาหุ้น BCH นับจากต้นปี YTD ปรับลดลง 8% ซึ่งถือว่าได้สะท้อนประเด็นลบไปแล้ว ทั้งการตั้งสำรองเป็นลบของประกันสังคมในครึ่งปีแรก และ WMC ที่ชะลอตัว ขณะที่แนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังของปี 2562 จะเติบโตดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก รวมถึงยังมีประเด็นบวกจากการปรับขึ้นค่าหัวประกันสังคมในงวดปีงบประมาณ 2563 ที่ยังไม่รวมในประมาณการ ซึ่งถือเป็น upside Risk เบื้องต้นคงมูลค่าพื้นฐานที่ 21.80 บาท อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC 7.1%
www.mitihoon.com