เกมล่าแม่มด ปลดทรัมป์ และผลต่อตลาด

184

การเมืองสหรัฐฯกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง โดยวัดจากระดับความสนใจจากผู้ใช้ Google Trends ที่มีผู้คนค้นหาคำว่า Impeachment หรือการฟ้องร้องเพื่อถอดถอนเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารระดับสูงของรัฐบาล สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด (กราฟด้านล่าง) หลังสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรฯ ได้เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ออกจากตำแหน่ง โดยได้มีการกล่าวหาว่าผู้นำสหรัฐฯพยายามขอความช่วยเหลือจากต่างชาติในการทำลายชื่อเสียงของนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้ที่พรรคเดโมแครตอาจส่งลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนปี 2563

การเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนเกิดขึ้น หลังจากมีข่าวว่าทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน และได้กดดันผู้นำยูเครนให้สอบสวนนายไบเดนกรณีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทขุดเจาะก๊าซในยูเครน ขณะที่ทรัมป์ได้ทวีตตอบโต้ในทันทีว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านกำลังทำอยู่คือกลยุทธ์ล่าแม่มด ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการ 6 ชุดในสภาคองเกรสที่กำลังสอบสวนจะตัดสินใจว่าคณะกรรมาธิการตุลาการประจำสภาผู้แทนราษฎรจะร่างข้อกล่าวหาสำหรับการถอดถอนหรือไม่ต่อไป

ความพยายามของพรรคเดโมแครตที่จะโค่นทรัมป์ลงจากตำแหน่งเพิ่มความเสี่ยงที่เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลง และตลาดจะผันผวนสูงหากนักลงทุนกังวลมากขึ้น ว่านโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจ (Pro-growth Policy) อาจกลับทิศ และความระส่ำระสายทางการเมืองเริ่มฉุดรั้งโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันยังดูสดใสกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักหลายแห่ง อย่างไรก็ดี แม้การไต่สวนเพื่อถอดถอนนี้อาจส่งผลให้ผู้นำสหรัฐฯ ถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด แต่หนทางยังอีกยาวไกลและสลับซับซ้อน

ขณะที่รายงานการสอบสวนในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดระหว่างทรัมป์และรัสเซียท้ายที่สุดไม่สามารถหาหลักฐานเอาผิดผู้นำสหรัฐฯได้ นอกจากนี้ ถึงแม้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่อยู่ภายใต้การนำของพรรคเดโมแครตลงมติให้มีการถอดถอนปธน.ทรัมป์ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่วุฒิสภายังอยู่ภายใต้การนำของพรรค   รีพับลิกันต้องโหวตด้วยเสียงข้างมากถึง 2 ใน 3 ของวุฒิสภาซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเรามองว่าประเด็น Impeachment น่าจะส่งผลต่อตลาดอย่างจำกัดในระยะสั้นแต่อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับปี 2563 ขณะที่ทรัมป์ใกล้จะอยู่ในอำนาจครบเทอมพอดี

ทางด้านผลต่อดอกเบี้ยสหรัฐฯ เราเห็นด้วยกับมุมมองของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)สาขาเซนต์หลุยส์ซึ่งในการประชุมวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมาเป็นผู้โหวตให้เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.50% สวนมติเสียงข้างมากที่ให้ลดดอกเบี้ย 0.25% โดยเขาระบุว่ากระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนทรัมป์จะไม่ส่งผลต่อทิศทางนโยบายของเฟดอย่างมีนัยสำคัญ เราประเมินว่าการถอดถอนอาจกระทบการคาดการณ์ของตลาดที่มีต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และผลการเลือกตั้งปี 2563 อย่างไรก็ตาม การถอดถอนทรัมป์ไม่ได้รับประกันว่าเดโมแครตจะได้รับคะแนนเสียงมากขึ้นในศึกเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ในอดีต มีประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2 ราย ซึ่งถูกกล่าวโทษเพื่อยื่นถอดถอน คือ แอนดรูว์ แจ็คสัน และ บิล คลินตัน ซึ่งทั้งคู่พ้นผิดด้วยเสียงของวุฒิสภา ส่วน ริชาร์ด นิกสัน กระบวนการถอดถอนได้เริ่มต้นขึ้นแต่ไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และเขาได้ชิงลาออกจากตำแหน่งก่อน อนึ่ง กรณีทรัมป์ถูกถอดถอน รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์จะขึ้นดำรงตำแหน่งต่อไป

                                                          โดย คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

www.mitihoon.com