มิติหุ้น-บลจ.วี เปิดขาย IPO กองทุน WE-GOLD วันที่ 4-9 ต.ค. 2562 ชูกลยุทธ์ แบบ Dynamic ปรับสัดส่วนลงทุนในทองคำและเงินตามภาวะตลาดเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าราคาทอง 2-5 เท่าในระยะยาว รับดีมานด์ตลาดมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ชี้แนวโน้มดอกเบี้ยขาลงทำผลตอบแทนพันธบัตรลดความน่าสนใจ จึงเป็นจังหวะดีสำหรับลงทุนในทองคำ
“นางสาวงามนภา ธวัชโชคทวี” กรรมการผู้จัดการ “บลจ.วี” เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 บริษัทยังคงเสนอขายกองทุนอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่นำเสนอกองทุน “WE-GTECH” ที่เน้นลงทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก และกองทุน WE-FIN-UI ที่เป็นกองทุน สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยลงทุนในตราสารประเภทลูกหนี้การค้าในต่างประเทศ ทำให้ปัจจุบันมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4,476 ล้านบาท
“นางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ “บลจ. วี” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน นโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและการอัดฉีดเงิน เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบสงครามการค้าที่รุนแรงระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งการใช้นโยบายการเงินดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลลดลง การถือครองพันธบัตรรัฐบาลจึงถูกลดความน่าสนใจลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของ Purchasing Power ที่ลดลงจากผลตอบแทนที่แท้จริงติดลบ ซึ่งพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยหักด้วยอัตราเงินเฟ้อ ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยและรักษามูลค่าได้ เช่น ทองคำและเงิน จึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความต้องการถือครองเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ท่ามกลางภาวะที่ตลาดเกิดความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่รักษาอำนาจในการซื้อ จึงมักได้รับผลดีในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยในปีนี้ราคาทองคำในสกุลเงินเงินเยน สกุลเงินยูโรดีดตัวสูงขึ้นหลังจากที่อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลงจากการลดดอกเบี้ยและอัดฉีดเงินเข้าในระบบ ซึ่งทาง บลจ.วี คาดว่าการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงไตรมาส 4 และปีหน้าจะทำให้ราคาทองคำในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงปรับตัวสูงขึ้น
“บลจ.วี” จึงเสนอขาย IPO กองทุนเปิด วี โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ (WE-GOLD) ระหว่างวันที่ 4-9 ต.ค. 2562 เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนในภาวะที่อัตราผลตอบแทนในตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำขณะที่การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเน้นการจัดพอร์ตลงทุนในทองคำและเงิน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าราคาทองคำในระยะยาว
กองทุน WE-GOLD ลงทุนในกองทุนหลัก Merian Gold and Silver Fund บริหารจัดการโดย Merian Global Investors โดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ในตลาดทองคำโลก เน้นจัดพอร์ตลงทุนในทองคำแท่ง , เงินแท่ง , หุ้นเหมืองทองและแร่เงิน ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภาวะตลาดแต่ละช่วง (Dynamic rotation) เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนสูงกว่าราคาทองคำ 2-5 เท่าในระยะยาว ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในการจัดสรรพอร์ตลงทุนและช่วยให้การกระจายการลงทุนในทองคำในพอร์ตสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าราคาทองคำในระยะยาว
ด้าน “นายอิศรา พุฒตาลศรี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน “บลจ.วี” เปิดเผยว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยรักษากำลังซื้อ (Purchasing power) ขณะเดียวกันผลตอบแทนของทองคำไม่เปลี่ยนแปลงตามภาวะตลาดหุ้น
ทั้งนี้ภาวะตลาดในปัจจุบันที่นักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น พร้อมกับมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยที่ให้ผลตอบแทนสูง การลงทุนใน”ทองคำ”และ”เงิน” จึงมีความน่าสนใจเมื่อพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ
นอกจากนี้ การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำช่วงที่ผ่านมา ทำให้หุ้นเหมืองทองและเงินเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงานมากขึ้น ส่งผลให้การกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุน โดยจากการศึกษาพบว่าในแต่ละรอบของการปรับตัวของราคาสินทรัพย์ประเภททองคำ และหุ้นเหมือง เมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนการผลิตของเหมือง การทำกำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับในช่วงนี้ ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ จึงคาดว่าการจัดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเหมืองจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นเหมืองมีความผันผวนสูง การคัดเลือกหุ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกองทุนหลักมีความแข็งแกร่งในคัดเลือกหุ้นเหมืองทองคำและเงิน ด้วยการประเมินมูลค่าหุ้นโดยใช้ปัจจัยพื้นฐานรวมไปถึงการพิจารณาบริษัท ในด้านการบริหารจัดการ , ความสามารถของผู้บริหาร , งบการเงิน , การเติบโตของบริษัท และ ปัจจัยความเกี่ยวข้องในด้านการเมือง ทำให้ บลจ.วี มีความมั่นใจในกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลัก
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลัก Merian Gold and Silver Fund กองทุนจะใช้กลยุทธ์ลงทุนในการจัดสัดส่วนการลงทุนลงทุนในทองคำและเงิน โดยในช่วงตลาดขาขึ้นเน้นลงทุนในหุ้นเงินมากกว่าหุ้นทองคำ และลดสัดส่วนการถือทองคำแท่งและเงินแท่ง ส่วนในช่วงตลาดขาลงจะปรับลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำมากขึ้น โดยลดสัดส่วนหุ้นทองคำกับเงินลง และเน้นถือทองคำแท่งเป็นส่วนใหญ่
“ด้วยกลยุทธ์ลงทุนในเชิงรุกแบบ Dynamic ของกองทุน WE-GOLD ทำให้กองทุนมีความน่าสนใจ เมื่อพิจารณาจากการเติบของหุ้นเหมืองทองและแร่เงิน รวมทั้งผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาทองคำและเงิน อีกทั้งราคาทองคำที่มีการย่อตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 1,500 เหรียญฯ ต่อออนซ์ บลจ.วี จึงมองว่าเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ต่างประเทศที่ปลอดภัยและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าราคาทองคำ 2-5 เท่าในช่วง 2-3 ปี จากนี้” นายอิศรา กล่าว