SET รับแรงหนุน การเจรจาสหรัฐฯจีน จับตาการประชุมสภาฯและรายงานกำไรไตรมาส3

61

 

มิติหุ้น-“มองหุ้นไทยได้แรงบวกจากผลการเจรจาการค้าแต่ตลาดยังจับตาการทำข้อตกลงในเดือนหน้าอีก รวมทั้งอัดฉีดเงินของ Fed เพื่อกระตุ้นสภาพคล่อง และประเด็นการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณางบประมาณ กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่ได้ผลบวกจากการเจรจาการค้า เช่น BGRIM, ADVANC, PTTGC, CENTEL  คาดกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ 1,620-1,650 จุด”

ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์  เคทีบี (ประเทศไทย)  จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST  ประเมินทิศทางตลาดและการลงทุนในสัปดาห์นี้ (15-18 ต.ค. 62) ว่า จากผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ออกมา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับผลบวก โดยวานนี้ (14 ต.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียยปรับตัวบวกในระดับที่ดีพอควร แต่ไม่บวกแรงเกินความคาดหมายนัก ยังมีประเด็นที่สองฝ่ายยังต้องทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จคาดว่าภายใน 1 เดือน เพื่อให้มีผลในทางปฎิบัติจริงออก ขณะที่การเลื่อนปรับขึ้นภาษี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค. ออกไปนั้น ได้ลดความกังวลกับตลาดลงไปได้มาก  ดังนั้น KTBST ประเมินว่า ตลาดจะเริ่มให้ความสนใจกับตัวแปรอื่นๆ มากขึ้น เช่น การเตรียมเปิดวงเงินซื้อพันธบัตรรอบใหม่จำนวน 6 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะเริ่มประมาณกลางเดือน ต.ค. จนสิ้นสุดไตรมาสที่สองของปีหน้า เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดเงิน และอาจทำให้โอกาสลดดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน ต.ค. น้อยลง

ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น เงินลงทุนที่กลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในช่วง 2 วันสุดท้ายของก่อนสัปดาห์ก่อนที่มีการซื้อขายสูงถึง 5-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน จะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดแรงซื้อหุ้นสูงขึ้น ในสัปดาห์นี้  ประเด็นที่น่าสนใจคือ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายปี 2563 วาระแรก จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 17 ต.ค. หากไม่ผ่านการพิจารณาจะมีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล  ขณะที่ ตัวแปรอื่นๆ นั้นที่ต้องติดตามคือการพิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว รวมถึงการทยอยรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ของหุ้นกลุ่มธนาคารและการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่จะประกาศผลประกอบไตรมาส 3  นอกจากนี้ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทย คือ การรายงานยอดขายรถยนต์เดือน ก.ย.

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้  KTBST ประเมินว่า เนื่องจากตลาดได้สะท้อนข่าวการเจรจาการค้าที่ได้ผลดีระดับหนึ่งแล้ว คาดว่าแรงซื้อจะทยอยกลับเข้ามาในตลาด มองเป้าดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,650 จุด กลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ แนะนำปรับการถือเงินสดกลับขึ้นมาเป็น 20%  โดยหุ้นที่น่าลงทุนนั้นคาดว่านักลงทุนจะยังคงให้ความสนใจกับหุ้นเสี่ยงต่ำอยู่ เช่น โรงไฟฟ้า , สื่อสาร และทยอยเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากสงครามการค้า เช่น หุ้นบางตัวในกลุ่มปิโตรเคมี , โรงแรม ทั้งนี้ หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวกเจรจาการค้าจะประกอบด้วย BGRIM, ADVANC, PTTGC, CENTEL ขณะที่หุ้นที่ถูกคาดว่ากำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี ประกอบด้วย EA, PRM, JMT, MTC  KTBST ประเมินกรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ที่ 1,620-1,650 จุด