มิติหุ้น-KKP สุดปลื้มนักลงทุนแห่ “เก็บสะสมหุ้น” หลังปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จับตาไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิพุ่ง 1.6 พันล้านบาท ชี้ฮุบงาน IB เต็มมือ แย้มเป็น FAให้กับ GPSC เข้าซื้อ GLOW , นำหุ้น DOHOME-AWCเข้าตลาด, คว้าดีลควบรวม TMB กับ TCAP แถมสินเชื่อเติบโตไม่หยุด ชูยิลด์สูง 8.6% แนะนำ “ซื้อ” ชี้เป้า 80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เผยว่า การที่ราคาหุ้น KKP วานนี้ (16ต.ค.62) ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก แม้จะหลุด SET50 ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าน่าจะเป็นผลมาจาก นักลงทุนต่างรับข่าวการที่ KKP จะหลุด SET50 มาก่อนหน้านี้แล้ว จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมาได้ “ทยอยขาย” หุ้น KKP เป็นจำนวนมาก โดยจะเห็นได้จากช่วงที่มีข่าวลือว่า KKP จะหลุด SET50 ระหว่างวันที่ 2 ก.ย.62 (เปิด 72.25บ.) ถึงวันที่ 10 ต.ค.62 (ปิด 63.75บ.) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรงกว่า 13%
กำไรQ3พุ่งพรวด15.4%
ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นจังหวะ “ซื้อคืน” หุ้น KKP ภายหลังจากกลุ่มผู้บริหารมีแผนการเดินหน้าธุรกิจที่ชัดเจน และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดย “บล.เอเชีย เวลท์” เผยว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 ของ KKP อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 15.4% จากไตรมาสก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากอัตราส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ที่เพิ่มขึ้น จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%
นอกจากนี้คาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะปรับตัวดีขึ้นประมาณ 3% จากการรับรู้รายได้ดีลวาณิชธนกิจ (IB) อาทิ IPO “Do Home” เป็นต้น ส่วนสินเชื่อช่วงไตรมาส 3/62 คาดจะเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของ “สินเชื่อเชิงพาณิชย์ (Corporate Loans)” พร้อมกันนี้ KKP ยังมีจุดเด่นตรงที่ “อัตราเงินปันผลดี” โดยคาด KKP จะจ่ายเงินปันผลที่ 5.50 บาทต่อหุ้นในปี 62 คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8.6% ต่อปี ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายที่ 80.00 บาท
ชี้ผลงานQ4พุ่งไม่หยุด
ด้าน “บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เผยว่า ช่วงไตรมาส3/62 คาด KKP มีกำไรสุทธิที่ 1.6 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมที่ทำได้ดีถึง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 29% จากไตรมาสก่อน เพราะรับงาน IB เข้ามา ได้แก่ ที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ GPSC ในการเข้าซื้อ GLOW และการนำหุ้น DOHOME เข้าตลาด
รวมถึงมูลค่าการซื้อขายของ “ธุรกิจหลักทรัพย์” ที่เพิ่มขึ้นได้ดี 17% นับตั้งแต่ต้นไตรมาส ประกอบกับสินเชื่อที่เติบโตได้ดี 2.5% จากไตรมาสก่อน หรือ 4% นับตั้งแต่ต้นปี จากสินเชื่อรายใหญ่ และสินเชื่อรายย่อยที่เติบโตได้ดี
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเติบโตโดดเด่นจากการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมจากดีล IB จาก IPO หุ้น AWC และการทำดีลควบรวม TMB กับ TCAP แต่คาดว่าจะยังเห็นขาดทุนรถยึดที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/62 โดยทั้งปี 62 คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 6 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 77.00 บาท
www.mitihoon.com