ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP ผู้ประกอบธุรกิจการกลั่น และจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่สุดในประเทศไทย โดยนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินในไตรมาส 4/62 ต่อเนื่องปี 2563 คาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งเข้าสู่ฤดูหนาว และฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับการบังคับใช้กฏระเบียบควบคุมการปล่อยกำมะถันของเรือเดินทะเล (IMO) ในวันที่ 1 ม.ค.63 ส่งผลให้เรือต้องเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเตากำมะถันสูงในปัจจุบันไปเป็นน้ำมันเตากำมะถันต่ำ หรือน้ำมันดีเซลแทน ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปโดยเฉพาะดีเซล และค่าการกลั่นในภาพรวมปรับสูงขึ้น
ท้งนี้ ในปี 62-66 บริษัทมีแผนลงทุนเป็นจำนวนประมาณ 4.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (CFP) โดยในปี 63 คาดว่าจะใช้ราว 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งความคืบหน้าในปัจจุบันบริษัทคาดวจะเริ่มก่อสร้างในต้นปี 63 และจะเเล้วเสร็จในปี 66 และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากแผนการลงทุนดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนกำไรตามธุรกิจหลักของบริษัท เป็น ปิโตรเลียม 40% ปิโตรเคมี 40% ไฟฟ้า 15% และอื่นๆ 5% จากปัจจุบันมีสัดส่วนธุรกิจการกลั่นปิโตรเลียม 60% ธุรกิจอะโรเมติกส์และธุรกอจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน 23% ธุรกิจไฟฟ้า 12% และอื่นๆ 5%
www.mitihoon.com