ต้องบอกว่า DW นี่ใช้ความรู้เทคนิคอลเป็นหลัก และควรมีความเข้าใจหลักการของสินค้าประเภทออปชั่นเบื้องต้นจะทำให้เทรดได้ดีขึ้นครับ
อย่างแรกคำศัพท์ที่ต้องทราบ ขออธิบายแบบบ้านๆ
1. Effective Gearing หรือ อัตราทด ยิ่งมีค่ามากก็ยิ่งดีครับ ตามหลักฟิสิกส์ออกแรงน้อยได้งานมาก นึกถึงฟันเฟืองน่ะครับ หมุนรอบตัวเล็ก ตัวใหญ่ขยับ
2. Sensitivity ความไว หรือ ความเร็วในการขึ้น/ลง ของ DW โดยอ้างอิงตัวแม่นั่นเอง ยิ่งมากยิ่งดี 0.7-1.00+ โดยประมาณ
แต่หากต่ำกว่านั้น ก็สามารถเทรดได้ โดยดูความสมดุลภาพรวมจากค่าอื่นๆประกอบ
3. Time Decay เนื่องจาก DW มันเป็นสินค้าที่ใช้หลักการ
ของออปชั่น มันเลยมี Time Value เข้ามาเกี่ยว
ขออธิบายด้วยภาษาชาวบ้าน เหมือนคุณขายข้าวมันไก่ ซื้อไก่มาต้มขาย ก็ต้องขายให้ได้ภายในระยะเวลาช่วงนึง ไม่เช่นนั้นมันก็จะบูดเน่าเสียไป ความอร่อยหรือมูลค่าก็ลดลงไปตามเวลา จนสุดท้ายหมดอายุ คือกินไม่ได้ ต้องทิ้ง ไม่เหลือคุณค่าอันใดอีกแล้ว
4. Expired Date วันหมดอายุครับ ยิ่งเข้าใกล้เส้นตายหากไม่เป็นไปตามแผน ก็ยิ่งร้อนใจ ดังนั้นเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1 เดือนก่อนหมดอายุครับ
อย่างออปชั่นนี่เวลาผมเทรด ผมมองยาว 3 เดือน คือ ภาพใหญ่จนจบซีรี่ส์นั้นๆ
5. สภาพคล่อง + ผู้ออก DW ที่เชื่อถือได้ อันนี้ก็ต้องลองคบค้าสมาคมกับเค้าดูครับ สมัครไปนั่งฟังของแต่ล่ะโบรกว่าเค้ามีอะไรนำเสนอ เวลามีปัญหา แก้ไขให้เราไหม
มาถึงส่วนที่เป็นเทคนิคอล
ดูภาพทางขวาก่อนเลยครับ ในภาพคือการไล่ซื้อ Break Out
ไล่ Call ตาม Break High และ ไล่ Put ตาม Break Low
นักเก็งกำไร 95% ในตลาด ใช้วิธีการวิ่งไล่ครับ หรือคำศัพท์เท่ห์ๆ คือ การ Follow Buy
โดยสภาพตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน การเคลื่อนที่เป็น Sideway เกินกว่า 80% ครับ ดังนั้น “การวิ่งไล่” ที่นิยมทำกัน จึงใช้การดู Bid-Offer ดู Ticker เป็นหลักด้วยลักษณะแบบนี้ทำให้ต้องกินคำเล็กครับ เพราะมันเห็นภาพระยะสั้น พูดง่ายๆ คือ ไล่ Call ตอนมันวิ่งขึ้น ไล่ Put ตอนมันวิ่งลง ผิดทางต้องรีบหนี
แต่นั่นล่ะ Cut Loss มันก็เหมือน “ลดความอ้วน” ทุกคนรู้แต่ไม่ทำ มิหนำซ้ำยังใช้วิธีการอมไว้ & ซื้อถัว เพิ่มสถานะผิดทางเข้าไปอีก ทั้งๆที่ DW คือสินค้าที่มีการบูดเน่าหมดอายุเหลือศูนย์ได้
สรุปว่า ม้าเฉียว ดูหุ้น The Future จะไม่ใช้วิธีนี้ครับหันมาดูภาพทางซ้าย เราจะใช้หลักการ “Sell The Strength & Buy The Weakness” ซื้อเมื่อมันพักตัว ทยอยแจกจ่ายตอนคนไล่ตาม
ช่วงพักตัวขาขึ้นไม่ว่า SET50 หรือ หุ้นรายตัว ที่นิยมเทรด DW กันจะเป็นสีแดงแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ใช้วิธีวิ่งไล่ เมื่อเห็นสีแดงก็ใส่ Put เข้าไว้ เห็นสีเขียว ก็อัด Call เต็มที่เราจะทำกลับกันอย่างมีหลักการดังนี้
1. อ่านแนวโน้มหลักก่อน “แดงในเขียวใหญ่ สุดท้ายคือเขียว”
นั่นคือ Call เมื่อตลาดพักตัวในแนวโน้มขึ้น ตัวอย่างที่ทำให้เห็นกันล่วงหน้า ก็ CKP OSP AWC TASCO PTG และอีกหลายๆตัวที่ผ่านมา จะเห็นว่าเรา ซื้อ/Call กันในกรอบสะสมพลัง และปล่อยของเมื่อมันระเบิดขึ้นเปลี่ยนกรอบ
2. ในทางตรงกันข้าม “เขียวในแดงใหญ่ สุดท้ายคือแดง” เราจะ Put ในจังหวะ Rebound ของแนวโน้มขาลงครับ ตอนนั้นมันจะเขียว คนส่วนใหญ่ไล่ Call แต่เราทราบว่ามันเขียวไม่นาน เดี๋ยวก็ลงไปตามแนวโน้มเดิม เราจึงทำสวนทางในจังหวะนั้น
3. หากทำสำเร็จ จะได้ผลกำไรอย่างต่ำ 10% แต่โดยทั่วไปแล้วจะมากกว่านั้นครับ ตัวอย่าง Put DW SET50 รอบที่ลงจาก 1748 เมื่อ Q2/19 หลายๆท่านที่ติดตามเพจได้กำไร 300%-700% ก็มี
ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างต้องมองหาโอกาสในจังหวะที่ตลาดคลุมเครือครับอะไรที่ใครๆก็เห็นแล้ว โอกาสดีๆ ก็หายไปแล้วเสมอ