SET index ทดสอบ 1600 จุดอีกรอบ

110

รู้ทันการลงทุน กับ KGI 

ภาพรวม SET index สัปดาห์ผ่านมา ปรับลงแย่กว่าคาด โดยเป็นผลจากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก หลังการประชุมนักวิเคราะห์ (โดยเฉพาะหุ้น KBANK) ที่ผู้บริหารให้มุมมองสำหรับปี 2563 ที่เป็นลบกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาด ทำให้มีโอกาสที่จะถูกปรับลดประมาณการฯ หรือ Earnings downgrade ลงไปอีก ทำให้ยิ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองตลาดฯก่อนหน้านี้ ที่มีการหมุนเงินเข้าหาหุ้น Defensive ที่มีโครงสร้างกระแสเงินสดคล้ายพันธบัตร (หุ้นโรงไฟฟ้า, AOT), หุ้นปันผลสูง ความเสี่ยงถูกปรับลดประมาณการฯต่ำ (กลุ่มสื่อสาร ADVANC, INTUCH) และขายหุ้นกลุ่มที่เสี่ยงถูกปรับลดประมาณการฯ เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี เป็นต้น

จากสถานการณ์ปัจจุบันทำให้เราประเมินว่า Upside ของ SET index อาจจะไม่มาก เนื่องจากจำนวนหุ้นที่มีผลประกอบการดีในปีนี้ “น้อยกว่า” จำนวนหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการไม่ดีนั่นเอง นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่ม Defensive โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าเริ่มที่จะเต็มมูลค่า และเราประเมินว่าการปรับขึ้นในขณะนี้เป็นผลจาก i) Momentum effect, ii) ดอกเบี้ยต่ำ, iii) Risk premium ต่ำ ทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีการปรับขึ้นจนทำให้อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง หรือ Cost of Equity อยู่ในระดับที่ต่ำมาก

เราจึงประเมินว่า Upside ของหุ้นกลุ่มเหล่านี้เริ่มจำกัด คล้ายพันธบัตรรัฐบาล ที่ราคายังปรับขึ้นเรื่อยๆ แม้อัตราผลตอบแทนจะต่ำเพียงใดก็ตาม บางแห่งถึงขั้นอัตราผลตอบแทนติดลบไปแล้ว (เช่น พันธบัตรรัฐบาลยุโรป) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และไม่มีทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่า ทำให้เราประเมิน SET index แกว่งตัว 1580 – 1635 จุด รอข่าวบวกเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องการลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในการประชุม ปลายเดือน ต.ค.นี้

เราประเมินว่ามีโอกาสที่นักลงทุนจะเริ่มกลับมาพิจารณาหุ้นขนาดกลาง – เล็กที่มีแนวโน้มผลการดำเนินงานดี และความเสี่ยงต่ำ เช่น หุ้นในโครงการจัดทำบทวิเคราะห์ (EPCO, AMA) เป็นต้น แทนที่หุ้นขนาดใหญ่ที่ Upside จำกัด และมีความเสี่ยงพักฐาน อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยและถือหุ้น Defensive เช่น โรงไฟฟ้า, สื่อสาร อยู่ แนะนำ “ถือ / Let profit run” โดยกำหนดจุดล๊อกกำไรหากมีการพักฐาน (อาจใช้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันเคลื่อนที่)

โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์

www.mitikhoon.com