TU ยืนยันไม่ได้รับผลกระทบกรณี สหรัฐตัดสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (GSP)ไทย

466

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป หรือ TU โดย “นายธีรพงศ์ จันศิริ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ยืนยันไม่มีผลกระทบ จากกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศเพิกถอนสิทธิพิเศษภาษีศุลกากรสินค้า (GSP) สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐฯ หลายรายการ ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าอาหารทะเลจากไทยบางรายการด้วย ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้ภาษีนำเข้าของสินค้าบางรายการที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเริ่มบังคับใช้ใน 6 เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ดีสินค้าอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์ที่ TU จำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่ภายใต้ GSP ดังนั้นมาตรการที่ประกาศในครั้งนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม TU นอกจากนี้ TU ยังคงมุ่งมั่นทำงานกับรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลกเพื่อปรับปรุงเรื่องสิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา TU ได้ประกาศกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน หรือ SeaChange® ซึ่งเป็นการรวบรวมแนวคิดริเริ่มต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันและสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในอุตสาหกรรมประมงทั่วโลก และหนึ่งในเสาหลักสำคัญของ SeaChange® คือความมุ่งมั่นในเรื่องสิทธิแรงงาน โดยแรงงานของ TU ต้องมีการจ้างงานที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย และมีเสรีภาพในการเลือกงานตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานขององค์กร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ TU ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำทางด้านอาหารทะเลที่น่าเชื่อถือที่สุดระดับโลก

พร้อมกันนี้ เมื่อ เดือนก.ย. 62ที่ผ่านมา TUได้รับการจัดอันดับจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นอันดับ 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหารของโลก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน อีกทั้งได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดย TU ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการได้คะแนนสูงสุดที่ 100 เปอร์เซ็นไทล์ ในด้านความยั่งยืนโดยรวม รวมถึงได้รับคะแนนสูงสุดในหัวข้อ จรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ เมื่อเดือน ต.ค.62  TU ยังได้รับการจัดอันดับโดยดัชนี Seafood Stewardship Index (SSI) เป็นอันดับที่ 1 จาก 30 บริษัทด้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก

 

www.mitihoon.com