มิติหุ้น-EA โต้ข่าวลือสหกรณ์แท็กซี่ล้มดีลจองรถไฟฟ้า เป็นเหตุกดดันราคาหุ้นร่วงแรงวันนี้ ยืนยันทุกอย่างเดินหน้าตามแผน ฟาก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 57.75 บาท คาดธุรกิจโรงไฟฟ้า ไตรมาส 3/62 กำไรไปได้สวย ขณะที่โรงงานแบตฯ เฟสแรก 1 กิ๊กกะวัตต์ เดินหน้าตามแผน
มิติหุ้น-นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือสหกรณ์แท็กซี่ล้มดีลจองรถไฟฟ้า ว่าโครงการดังกล่าวที่ บริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MMC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้นสัดส่วน 99.99% ดำเนินธุรกิจหลักเพื่อประกอบ ผลิต และจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ MINE Mobility ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด กลุ่มผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) เพื่อตกลงให้จองสิทธิซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) และอะไหล่ จำนวน 3,500 คัน โดยจะนำไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง เพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิกของสหกรณ์ อีกทั้งยังตกลงใช้บริการชาร์จไฟฟ้าจากสถานีชาร์จของกลุ่ม EA ที่ได้ลงทุนเตรียมไว้อำนวยความสะดวกล่วงหน้าแล้วภายใต้ชื่อสถานีชาร์จ EA Anywhere ยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางเอาไว้
“ข่าวลือที่ออกมาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเดินหน้าตามแผน เราทำงานร่วมกับทางสหกรณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้แผนการผลิตและส่งมอบสอดรับกันทั้งสองฝ่าย โดยคาดว่าจะเริ่มทำการส่งมอบรถได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะรวมทั้งการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้ารายอื่นๆ ที่จองเข้ามาด้วยเช่นกัน” นายอมรกล่าวยืนยัน
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ MINE รุ่น SPA 1 รถครอบครัวขนาด 5 ที่นั่ง ผลิตด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบา เสริมความแข็งแรงด้วยอะลูมิเนียมแพลตฟอร์ม อัตราความเร็วสูงถึง 140 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนขนาด 30 kWh พร้อมเทคโนโลยี STOBA ช่วยป้องกันการลัดวงจรจากภายในเซลแบตเตอรี่ สาเหตุหลักของการเกิดไฟไหม้ สามารถขับเคลื่อนให้วิ่งได้ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ด้วยระบบการชาร์จ แบบ Quick Charge ของ EA Anywhere ที่เปิดให้บริการกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ แล้ว จึงเหมาะสำหรับการนำมาให้บริการผู้โดยสารด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงกว่าเดิม อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำมากเนื่องจากการเปลี่ยนรูปแบบการขับเคลื่อนจากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์และขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มาเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องยนต์อีกต่อไป เสริมด้วยการบริการหลังการขายที่เตรียมการไว้แล้ว
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้น EA หลังจากราคาหุ้นร่วงแรงกว่า 8% ว่า ธุรกิจโรงไฟฟ้าของ EA ยังคงดำเนินงานปกติดี โรงไฟฟ้าทั้งหมดผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่าคาด ทำให้กำไร 3Q19 คาดจะขยายตัวดีทั้ง QoQ และ YoY
ส่วนแผนธุรกิจอื่นๆ ดำเนินตามแผน โดยโรงแบตฯ เฟสแรก 1 กิ๊กกะวัตต์ โรงงานอยู่ระหว่างการอนุญาตจากทางราชการ แต่บริษัทมั่นใจว่าจะผลิตออกมาได้ในปี 2563 ตามแผน โดยหากล่าช้าออกไป บริษัทก็มีแผนจะใช้โรงงานสำรองรวมถึงใช้โรงงาน Amita ไต้หวัน ทำการผลิตในช่วงแรกได้ ซึ่งได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยังระบุด้วยว่าโครงการแบตฯไม่ได้อยู่ในประมาณการของเราอยู่แล้ว เราคงน้ำหนัก “ซื้อเก็งกำไร” 57.75 บาท เรามองว่า ราคาหุ้นปรับตัวลงจากความกังวลข้างต้นของนักลงทุนที่ bullish กับเรื่องแบตฯ ที่มาก และเร็วเกินไป สำหรับการลงทุนที่มองโรงไฟฟ้าเป็นฐาน เรามองว่าเป็นโอกาสสะสม