ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ต้อนรับ บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เริ่มซื้อขาย 5 พ.ย. นี้ บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา ผู้แทนจำหน่าย และผู้พัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์

97

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “IP” ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562

IP ดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่าย และผู้พัฒนา คิดค้น ผลิตภัณฑ์สุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์ แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness and AntiAging Products) ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (Aesthetic Innovation Products) ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง (Companion Animal Health Products) และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ (Livestock Products) มีสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของเจ้าของสินค้ารายอื่น ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท ประมาณ 60 : 40 โดยบริษัทว่าจ้างโรงงานทั้งในและต่างประเทศผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ ผลิตภัณฑ์ Probac 7 และ Probac 10 เป็นต้น

IP มีทุนชำระแล้ว 103 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 160 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 46 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 2830 ตุลาคม 2562 ในราคาหุ้นละ 7.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 322 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,442 ล้านบาท มีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บมจ. หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา (IP) เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวคิดที่จะเป็นผู้นำในการคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยในการป้องกันรักษาโรค ช่วยชะลอวัยและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ซึ่งอยู่ในกระแสที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ตลอดจนรองรับความต้องการของสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) โดยการเข้าจดทะเบียนใน mai ครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

IP มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ถือหุ้น 51.12% การกำหนดราคาเสนอขาย IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ซึ่งกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 7.00 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น P/ที่ 53.85 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม 256130 มถุนายน 2562) ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 26.66  ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.13 บาท ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการ